ข่าววันที่ 1 มีนาคม 2568

ข่าววันที่ 1 มีนาคม 2568 ตรวจจีพีเอสพบปมบัสมรณะ 18 ศพ
ข่าววันที่ 1 มีนาคม 2568 ในหลวงทรงรับผู้บาดเจ็บทุกรายจากเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำเขาศาลปู่โทนไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ ขณะที่ญาตินำร่างผู้เสียชีวิตทั้ง 18 รายกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิดแล้ว กำหนดเผา 1 มี.ค. เผยค่าสินไหมทดแทนทุกส่วนคนตายจะได้รายละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านบาท
ด้านตำรวจคุมตัวโชเฟอร์รถมรณะฝากขังศาล พฐ.ภาค 2 ตรวจซากรถซ้ำหาต้นตออุบัติเหตุ พบจีพีเอสจับความเร็วเวลาเกิดเหตุ 85 กม./ชม. และขับเกิน 4 ชม.ไม่มีพักรถ ผิดกฎวิ่งทางไกลรถเช่าเหมาคัน
จากโศกนาฏกรรมรถทัวร์มรณะพาคณะเทศบาลตำบลพรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ ไปดูงานธนาคารขยะหมู่บ้านที่ จ.ระยอง เกิดอุบัติเหตุชนแบริเออร์พลิกคว่ำบริเวณทางลงเขาศาลปู่โทน
ถนนสาย 304 กม.ที่ 210+500 หมู่ 4 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เวลา 03.00 น. คืนวันที่ 26 ก.พ.ที่ผ่านมา
ทำให้ผู้โดยสารเสียชีวิตถึง 18 ศพ บาดเจ็บกว่า 20 คน เบื้องต้นคนขับอ้างเปลี่ยนเกียร์ต่ำไม่ได้และลมเบรกหมด กลัวรถไปชนรถทัวร์คันหน้า ตัดสินใจหักชนแบริเออร์ ขณะที่ชาวบ้านเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาจุดเกิดเหตุที่เป็นทางลาดชันคดเคี้ยวจนกลายเป็นจุดอาถรรพณ์ที่มักเกิดอุบัติเหตุซ้ำซาก สร้างความสูญเสียนับครั้งไม่ถ้วน
ความคืบหน้าการตรวจพิสูจน์หาสาเหตุรถทัวร์ 2 ชั้นพลิกคว่ำที่ สภ.วังขอนแดง อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี บ่ายวันที่ 27 ก.พ. พล.ต.ต.ฉัตรชัย นันทมงคล ผบก.พฐ.ภ.2 นำเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานตรวจสภาพซากรถทัวร์คันเกิดเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่ สภ.วังขอนแดง เพื่อหาหลักฐานรอยครูดต่างๆ
ดูระบบเกียร์และระบบหม้อลมเบรก พล.ต.ต.ฉัตรชัยเปิดเผยว่า นำเจ้าหน้าที่ภาค 2 มาพิสูจน์รถเพิ่มเติม หลังพิสูจน์หลักฐานจังหวัดตรวจสอบไปแล้ว เพื่อดูรายละเอียดว่ามีประเด็นอะไรที่ยังขาดตกบกพร่อง ดูตำแหน่งการชนเทียบกับร่องรอยถนนว่าเข้ากันได้หรือไม่ ส่วนความสมบูรณ์ของรถเป็นหน้าที่ของวิศวกรจากกรมการขนส่งทางบก
“เจ้าหน้าที่ทำงานร่วมกัน 3 ส่วนคือกรมการขนส่งทางบก พิสูจน์หลักฐาน และพนักงานสอบสวน ส่วนเรื่องผลการตรวจสอบจะเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด เรื่องนี้ต้องหยิบขึ้นมาทำก่อน
เพราะเป็นคดีที่มีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก อย่างช้าสุดไม่เกิน 1 เดือน แต่คิดว่าน่าจะเสร็จเร็วกว่ากำหนด ระหว่างนี้จะพูดคุยทำความเข้าใจกัน หากยังมีข้อสงสัยก็อาจกลับมาตรวจสอบ ทางนิติวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม” ผบก.พฐ.ภ.2 กล่าว
ส่วนความคืบหน้าด้านคดี พนักงานสอบสวนนำตัวนายนาวิน ชูปัญญา อายุ 50 ปี คนขับรถทัวร์ขณะเกิดเหตุที่ได้รับบาดเจ็บออกจาก รพ.นาดี ไปฝากขังศาลจังหวัดกบินทร์บุรี ระหว่างนั้นผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แต่นายนาวิน ไม่ยอมพูด ทั้งนี้ พ.ต.อ.ประสงค์ ศิริทิพย์วานิช
รอง ผบก.ภ.จ.ปราจีนบุรี เปิดเผยว่า เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาผู้ขับขี่ฐานขับขี่โดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ได้รับบาดเจ็บสาหัส และทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นเสียหาย หากตรวจพบว่ามีส่วนอื่นเกี่ยวข้องเพิ่มเติมก็จะดำเนินคดีทุกข้อหา ส่วนเรื่องใบอนุญาตขับขี่ประเภท ท.4 พบว่ายังไม่หมดอายุ
ด้าน พ.ต.อ.โสภณ พรามณี ผกก.สภ.วังขอนแดง เปิดเผยถึงกรณีญาติผู้ตายระบุว่ามีทรัพย์สินทองรูปพรรณหนัก 8-10 บาท และแหวนเพชรสูญหายว่า หลังเกิดเหตุตำรวจนำรถเครนมายกหลังคารถทัวร์เพื่อตรวจสอบทรัพย์สินของมีค่าของผู้โดยสารพบกระเป๋าเป้สีน้ำตาลอยู่บนชั้นเก็บของฝั่งซ้ายตรงประตูทางลงด้านหน้า ภายในมีโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง สร้อยข้อมือทองคำ 1 เส้น เงินสดธนบัตรใบละ 100 บาท จำนวน 9 ฉบับ ใบละ 50 บาท 2 ฉบับ ใบละ 20 บาท 2 ฉบับ ธนบัตรฟิลิปปินส์ 1 ฉบับ ธนบัตรเงินหยวน 1 ฉบับ บัตรเอทีเอ็ม 5 ใบ และบัตรประชาชน น.ส.พิมพกานต์ พินทะเนาว์ หนึ่งในผู้เสียชีวิต ตำรวจโทรศัพท์แจ้งญาติว่าพบกระเป๋าแล้วพร้อมถ่ายภาพทรัพย์สินให้ดู ลูกสาวยอมรับว่าเป็นของแม่จริง ส่วนแหวนเพชรไม่ได้หายไปไหนสวมอยู่ที่นิ้วผู้ตาย อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ สภ.วังขอนแดง ตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยเพื่อให้บริการญาติในเรื่องทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังเจ้าหน้าที่กรมการขนส่งทางบกตรวจสอบข้อมูลจีพีเอสของรถทัวร์ตลอดเส้นทางการเดินรถ พบว่าเริ่มออกเดินทางจากต้นทาง ต.พรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เวลา 17.01 น. วันที่ 25 ก.พ.68 เข้าสู่ จ.สกลนคร เวลา 17.40 น. ผ่าน จ.อุดรธานี เวลา 18.57 น. เข้าสู่ จ.ขอนแก่น เวลา 20.58 น. ต่อมาเป็นการเดินรถต่อเนื่องเข้าสู่ จ.นครราชสีมา เวลา 23.55 น. กระทั่งรถเข้าสู่ จ.ปราจีนบุรี ช่วงเวลา 03.01 น. วันที่ 26 ก.พ.68 และถึงจุดเกิดเหตุ บนถนนสาย 304 ต.บุพราหมณ์ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี เวลา03.09 น. ความเร็วรถขณะเกิดเหตุเวลา 03.09 น. คือ 85 กม./ชม. ถือว่าไม่พบความเร็วเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้
อย่างไรก็ตาม ผลการตรวจสอบพบข้อน่าสังเกตคือข้อมูลระบบจีพีเอสพบการทำงานเกิน 4 ชม. สะท้อนถึงคนขับรถขับต่อเนื่อง ไม่ได้พักรถตามมาตรการที่กรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้สำหรับคนขับรถทางไกลในรถประเภทเช่าเหมาคัน พบการขับเกิน 4 ชม.ช่วงเวลา 21.02 น. วันที่ 25 ก.พ.68 ถึงช่วงเกิดเหตุ 03.09 น. วันที่ 26 ก.พ.68 คาบเกี่ยวเวลาขับเกิน 6 ชม.กว่า เนื่องจากมาตรการของกรมการขนส่งทางบกกำหนดไว้ว่าการขับรถขับระยะทางไกลของรถประเภทเช่าเหมาคันที่ไม่ใช่รถสาธารณะ คนขับต้องจอดพักทุก 4 ชม. จากนั้นจึงเดินทางต่อ จากข้อมูลพบการทำงานของจีพีเอสต่อเนื่องแสดงว่ามีความเป็นไปได้ที่คนขับไม่ได้จอดพักตามมาตรการ ประเด็นนี้จะได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบเพิ่มเติมด้วย
ส่วนบรรยากาศที่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ หมู่ 8 ต.พรเจริญ อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ สถานที่ตั้งศพผู้เสียชีวิต 18 ศพ จากรถทัวร์มรณะคว่ำบนเขาศาลปู่โทน อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ล่าสุดญาติผู้ตายขอย้ายศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลไปไว้วัดบ้านเอียด 4 ราย และวัดบ้านหนองกุงพัฒนาราม 1 ราย วัดทั้งสองแห่งอยู่ในเขตเทศบาลตำบลพรเจริญ เหลือศพอยู่วัดป่าวิเวกธรรมคุณ 13 ราย อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดมีกำหนดฌาปนกิจศพวันเดียวกันคือวันที่ 1 มี.ค.นี้
ด้านนายจุมพฏ วรรณฉัตรสิริ ผวจ.บึงกาฬ เปิดเผยว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำลังตรวจสอบสิทธิให้กับผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่ละราย เบื้องต้นผู้เสียชีวิตและทุพพลภาพถาวรสิ้นเชิงจะได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนจาก
ประกันภัยภาคบังคับ พ.ร.บ. 500,000 บาท/ราย และประกันภัยรถภาคสมัครใจ ประเภท 3 บาดเจ็บ/เสียชีวิต 550,000 บาท/ราย เงินสำรองจ่ายค่าจัดการศพเทศบาลตำบลพรเจริญ 29,700 บาท/ราย กรณีเป็นหัวหน้าครอบครัวจะได้รับเพิ่ม 29,700 บาท ยังมีเงินช่วยเหลือสำนักงานยุติธรรมจังหวัด 55,000 บาท เงินช่วยเหลือจากสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด 3,000 บาท/ครอบครัว กรณีครอบครัวที่มีเด็กได้รับเพิ่ม 1,000 บาท/ครอบครัว สำนักงานกาชาดจังหวัด 3,000 บาท/ราย ผู้เป็นสมาชิกกองทุนขยะจะมีเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ 17,900 บาท/ราย และเงินจากสำนักงานประกันสังคมตามสิทธิผู้ประกันตนผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตแต่ละรายอาจได้รับเงินค่าสินไหมทดแทนไม่เท่ากัน
เวลา 08.48 น.วันที่ 27 ก.พ. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กถึงกรณีอุบัติเหตุรถทัวร์คณะเทศบาลตำบลพรเจริญ จ.บึงกาฬ พลิกคว่ำที่ อ.นาดี จ.ปราจีนบุรี ทำให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนมากว่า พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับผู้บาดเจ็บทุกรายจากเหตุการณ์รถบัสศึกษาดูงานจากจังหวัดบึงกาฬประสบอุบัติเหตุพลิกคว่ำไว้เป็นผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
ที่มาข่าว: ไทยรัฐออนไลน์ (https://www.thairath.co.th/news/local/2844424)

