ข่าววันที่ 8 มีนาคม 2568

ข่าววันที่ 8 มีนาคม 2568 เผาป่าคุก 4 ปี ชดใช้ 133 ล้าน กรณีตัวอย่าง วอดไป 2 พันไร่ ไม่รอลงอาญา

ข่าววันที่ 8 มีนาคม 2568 อุทาหรณ์คนเผาป่าเจอโทษหนัก สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 แจงผลคดีตัวอย่าง ศาลพิพากษาหนุ่มลอบตัดไม้จุดไฟเผาป่าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก

วอดกว่า 2,000ไร่ สั่งจำคุก 8 ปี จำเลยรับสารภาพลดโทษกึ่งหนึ่งเหลือ 4 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ค่าเสียหายอ่วมกว่า 133 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี

สั่งจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญาหนุ่มลอบตัดไม้จุดไฟเผาป่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า สั่งชดใช้เงินกว่า 133 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 5 ต่อปี เปิดเผยวันที่ 7 มี.ค. เพจสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) โพสต์ข้อความกรณีเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ (ขหล.) ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ จับกุมผู้กระทำผิด 1 รายในความผิดแผ้วถาง

ตัดฟันต้นไม้ จุดไฟเผาต้นไม้และใบไม้แห้งลามไหม้ป่าบริเวณพื้นที่ป่าฝั่งทิศตะวันออก บ้านไร่สุขสมบูรณ์ หมู่ 10 ต.บ้านยาง อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก ศาลพิพากษาจำคุก 4 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ค่าเสียหายเป็นเงิน 133,237,390 บาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปี

รายละเอียดในข้อความระบุว่า เมื่อเวลา 01.00 น. วันที่ 6 พ.ค.2567 นายพรชล คงเพชรศักดิ์ หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 11 (พิษณุโลก) กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช รับรายงานการจับกุมบุคคลเข้าไปเผาป่าในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต

หลังจากเจ้าหน้าที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ พบเห็นกลุ่มควันไฟลอยขึ้นบริเวณพื้นที่ป่าด้านทิศตะวันออกของพื้นที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาน้อย-เขาประดู่ จึงร่วมกับผู้ใหญ่บ้านบ้านไร่สุขสมบูรณ์ หมู่ 10 ต.บ้านยาง ตำรวจสายตรวจ ต.บ้านยาง ไปตรวจสอบกลุ่มควันบริเวณดังกล่าว

พบนายนคร อายุ 41 ปี ชาวบ้านไร่สุขสมบูรณ์ พร้อมของกลางมีดหวด ไฟแช็ก มีด ปลายแหลม และมีดดาบไม่มีด้าม จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุโดยละเอียดพบการแผ้วถาง ตัดฟันต้นไม้ จุดไฟเผาต้นไม้และใบไม้แห้งเป็นป่าเบญจพรรณผสมเต็งรัง มีต้นไม้จำนวนมาก บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าสองฝั่งลำน้ำแควน้อยและอยู่ในเขตห้ามล่าสัตว์ป่า (ขหล.) เขาน้อย-เขาประดู่

เป็นเหตุให้เกิดเพลิงลุกไหม้เผาป่าเป็นบริเวณกว้างเนื้อที่รวม 2,166.02 ไร่ มูลค่าเสียหาย 133,237,390 บาทสอบสวนนายนคร เบื้องต้นยอมรับว่าตั้งใจจุดไฟเผาป่าในพื้นที่ และทราบดีว่าการจุดไฟเผาป่ามีความผิดตามกฎหมาย เจ้าหน้าที่คุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.วัดโบสถ์ ดำเนินคดี

พนักงานสอบสวนนำสำนวนคดีส่งไปยังอัยการตามลำดับ พนักงานอัยการจังหวัดพิษณุโลกยื่นฟ้องนายนครต่อศาลจังหวัดพิษณุโลก คดีหมายเลขดำที่ สวอ 29/2567 ความผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 ความผิดต่อ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 และความผิดต่อ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562

ศาลจังหวัดพิษณุโลกพิพากษาตามคดีหมายเลขแดงที่ สวอ 21/2567 วันที่ 22 ส.ค.2567 ที่ผ่านมา พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ 2484 มาตรา 54, 72 ตรี วรรคสอง พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ 2507 มาตรา 14 วรรคหนึ่ง, 31 วรรคสอง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2562 มาตรา 67 (2), 103

วรรคหนึ่ง จำคุก 8 ปี จำเลยให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา มีเหตุบรรเทาโทษลดโทษ ให้กึ่งหนึ่ง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 คงจำคุก 4 ปี

พิเคราะห์รายงานสืบเสาะและพินิจจำเลยแล้วเห็นว่าแม้ไม่ปรากฏว่าจำเลยเคยได้โทษจำคุกมาก่อน แต่การกระทำผิดของจำเลยก่อให้เกิดความเสียหายเป็นวงกว้างต่อทรัพยากรธรรมชาติและทรัพยากรป่าไม้ของชาติ พฤติการณ์เป็นเรื่องร้ายแรง จึงไม่เห็นสมควรรอการลงโทษ ริบของกลางทั้งหมด ให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายตามมูลค่าทั้งหมดของทรัพยากรธรรมชาติที่ถูกทำลายหรือเสียหายเป็นเงิน 133,237,390 บาท

พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 5 ต่อปีของต้นเงินดังกล่าว นับแต่วันที่ 6 พ.ค.2567 เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จแก่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้จำเลยและบริวารของจำเลยออกไปจากเขตป่าสงวนแห่งชาติที่เกิดเหตุภายใน 30 วัน นับแต่คดีถึงที่สุด ค่าฤชาธรรมเนียมในคดีส่วนแพ่งให้เป็นพับ คำขออื่นนอกจากนี้ให้ยกไม่มีผู้ใดอุทธรณ์ คดีถึงที่สุดแล้ว

ที่มาข่าว: ไทยรัฐออนไลน์ (https://www.thairath.co.th/news/local/2845892)

ท่องเที่ยวไทย