จุดเช็คอินเพชรบูรณ์ 2025 สถานที่เที่ยวสุดฟิน ถ่ายรูปปัง

จุดเช็คอินเพชรบูรณ์ เพชรบูรณ์ ดินแดนแห่งขุนเขาและสายหมอก เมืองที่โอบล้อมด้วยธรรมชาติสุดอลังการ และอากาศเย็นสบายตลอดปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงไหน เพชรบูรณ์ก็มีเสน่ห์ที่แตกต่างกันออกไป ทั้งทะเลหมอกยามเช้าที่ เขาค้อ ความเขียวขจีของไร่ชาและไร่สตรอว์เบอร์รีที่ ภูทับเบิก หรือจะไปตามหาจุดถ่ายรูปสุดฮิต คาเฟ่เก๋ๆ ที่ซ่อนตัวอยู่ท่ามกลางขุนเขา
เพชรบูรณ์มีครบทุกแนว ทั้งธรรมชาติ วัดวาอาราม คาเฟ่ ร้านอาหาร หรือแม้แต่ที่พักบรรยากาศดีๆ ที่เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนเติมพลังใจ วันนี้เราจะพาไปเช็กอินจุดเด็ดที่ไม่ควรพลาด จะสายเที่ยว สายกิน หรือสายถ่ายรูปก็ถูกใจแน่นอน
จุดเช็คอินเพชรบูรณ์ สายธรรมชาติ
เพชรบูรณ์… เมืองเล็กๆ ที่เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์แห่งขุนเขาและธรรมชาติอันบริสุทธิ์ ดินแดนที่โอบล้อมด้วยทิวเขาสลับซับซ้อนและสายหมอกที่คลอเคลียปลายยอดไม้ตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะเป็นช่วงหน้าหนาวที่อากาศเย็นจับใจ หรือช่วงหน้าฝนที่ธรรมชาติเขียวขจีสดชื่น ที่นี่คือสวรรค์ของคนรักธรรมชาติอย่างแท้จริง

ภูทับเบิก
ภูทับเบิกเป็นจุดหมายปลายทางที่เหมาะมากถ้าอยากสัมผัสอากาศเย็น วิวสวย และทะเลหมอกแบบจัดเต็ม! ที่นี่เป็นยอดเขาสูงสุดของจังหวัดเพชรบูรณ์ สูงประมาณ 1,768 เมตรจากระดับน้ำทะเล จุดเด่นของภูทับเบิกมีหลายอย่างเลย
ไฮไลต์ที่ไม่ควรพลาด
ชมทะเลหมอก: ช่วงเช้าตรู่จะเห็นทะเลหมอกหนาๆ ลอยต่ำอยู่เหนือหมู่บ้านกับไร่กะหล่ำปลี สวยอลังการสุดๆ โดยเฉพาะหน้าฝนกับหน้าหนาว
แปลงกะหล่ำปลี: เป็นไร่กะหล่ำปลีที่ใหญ่สุดในไทยเลยนะ ขับรถหรือเดินเล่นถ่ายรูปในไร่ได้ มุมนี้วิวเขียวๆ สดชื่นมาก
ดูพระอาทิตย์ขึ้นและตก: จุดชมวิวที่นี่เหมาะทั้งเช้าและเย็น พระอาทิตย์ขึ้นจะสะท้อนทะเลหมอก ส่วนตอนเย็นแสงจะทาบทาลงที่ไร่กะหล่ำปลี โรแมนติกมาก
อากาศเย็นตลอดปี: แม้หน้าร้อนก็ยังเย็น โดยเฉพาะตอนกลางคืนถึงเช้า อากาศดีมาก ใส่เสื้อกันหนาวไว้จะดี
ช่วงเวลาที่แนะนำ
- หน้าฝน (ก.ค. – ก.ย.): ทะเลหมอกเยอะ เขียวชอุ่มสุดๆ
- หน้าหนาว (พ.ย. – ก.พ.): หนาวจับใจ หมอกมีให้เห็นแทบทุกวัน อาจมีน้ำค้างแข็งบางปีด้วยนะ
- หน้าร้อน (มี.ค. – พ.ค.): คนไม่เยอะ อากาศเย็นสบาย แต่หมอกอาจไม่เยอะเท่าหน้าฝนกับหนาว
การเดินทาง
จากตัวเมืองเพชรบูรณ์ ขับรถประมาณ 100 กิโลเมตร ใช้เวลา 2-3 ชั่วโมง
ถนนขึ้นเขาคดเคี้ยวหน่อย ควรใช้รถสภาพดี หรือถ้าไม่มั่นใจฝีมือขับเอง มีรถบริการขึ้น-ลงจากท่ารถวัดป่าเจริญราชด้วย

เขาค้อ
เขาค้อคือที่เที่ยวที่ต้องไปสักครั้งเลยนะ! บรรยากาศคล้ายภูทับเบิก แต่เดินทางง่ายกว่า มีอะไรให้เที่ยวเยอะมาก ทั้งทะเลหมอก วัด คาเฟ่ จุดชมวิว และที่พักน่ารักๆ เต็มไปหมด เดี๋ยวเล่าให้ฟังแบบละเอียดหน่อย เผื่อวางแผนไปได้เลย!
ทำไมต้องไปเขาค้อ?
- อากาศเย็นสบายทั้งปี โดยเฉพาะหน้าหนาวกับหน้าฝน เย็นจนไม่อยากกลับเลย
- มีจุดชมทะเลหมอกสวยๆ หลายจุด ไม่ต้องตื่นเช้ามากก็มีโอกาสเจอ
- มีทั้งวัด คาเฟ่ สวนดอกไม้ ที่เที่ยวธรรมชาติครบจบในที่เดียว
- เดินทางไม่ยาก ถนนดี ขับรถเที่ยวเองง่ายมาก
ที่เที่ยวห้ามพลาดที่เขาค้อ
- พระธาตุผาซ่อนแก้ว
วัดสวยสุดอลังการ มีพระพุทธรูป 5 องค์ซ้อนกันอยู่บนยอดเขา วิวดีมาก มองเห็นภูเขาล้อมรอบ เงียบสงบ - ทะเลหมอก ณ จุดชมวิวเขาค้อ
ช่วงเช้าจะมีทะเลหมอกลอยผ่านหน้าแบบฟินๆ ถ้าโชคดีเห็นพระอาทิตย์ขึ้นด้วย ยิ่งสวย - ไร่ GB / ไร่บีเอ็น / ทุ่งกังหันลม
ไร่สตรอเบอรี่ ไร่ดอกไม้ และทุ่งกังหันลมใหญ่ ถ่ายรูปเพลิน เดินเล่นสบาย - พิพิธภัณฑ์อาวุธเขาค้อ
ได้เห็นเรื่องราวทางประวัติศาสตร์ และยังมีจุดชมวิวที่เห็นอ่างเก็บน้ำรอบๆ อีกด้วย - คาเฟ่ชิคๆ
อย่าง Pino Latte Café (วิวพระธาตุผาซ่อนแก้วแบบเต็มตา), The Blue Sky Garden (เหมือนอยู่ยุโรป)
นั่งจิบกาแฟ ชมวิวเขา บรรยากาศดีสุดๆ
ช่วงเวลาน่าเที่ยว
- หน้าฝน (ก.ค. – ก.ย.): ทะเลหมอกจัดเต็ม เขียวชอุ่ม สดชื่นมาก
- หน้าหนาว (พ.ย. – ก.พ.): อากาศเย็นจัด หมอกบางวันหนาแบบปิดภูเขาเลย แถมมีงานไฟประดับตามจุดต่างๆ ด้วย
- หน้าร้อน (มี.ค. – พ.ค.): อากาศยังเย็นกว่าเมือง แต่ไม่มีหมอกเยอะเท่าช่วงอื่น
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ ขับรถประมาณ 5-6 ชั่วโมง ถนนดี ขึ้นเขาไม่ชันมาก ขับง่าย แต่ถ้าขับไม่เก่ง มีรถบริการขึ้น-ลงให้เหมือนกัน หรือจะไปแบบรถทัวร์ รถตู้ แล้วต่อรถขึ้นเขาก็ได้

อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว
“สวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย” แห่งเพชรบูรณ์
ถ้าคุณเป็นคนรักธรรมชาติ อยากสัมผัสอากาศเย็นสดชื่นตลอดปี ต้องไม่พลาด อุทยานแห่งชาติน้ำหนาว พื้นที่อุดมสมบูรณ์ที่เต็มไปด้วยป่าไม้ สนสองใบและสนสามใบที่ขึ้นเรียงรายสุดสายตา บรรยากาศที่นี่เงียบสงบ อากาศเย็นสบาย โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อุณหภูมิลดต่ำจนบางวันมีเหมยขาบ (น้ำค้างแข็ง) ปกคลุมพื้นหญ้า เป็นภาพที่สวยและสดชื่นมากๆ
จุดเด่นที่ไม่ควรพลาด
- จุดชมวิวภูค้อ
จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและทะเลหมอกที่สวยงามที่สุดในอุทยานฯ ช่วงเช้าจะเห็นสายหมอกปกคลุมยอดเขาสลับกับแสงอาทิตย์อ่อนๆ โรแมนติกสุดๆ - ถ้ำใหญ่น้ำหนาว
ถ้ำหินปูนขนาดใหญ่ภายในมีหินงอกหินย้อยรูปทรงสวยงาม เหมาะสำหรับคนที่ชอบการเดินสำรวจถ้ำและการผจญภัยเล็กๆ - เส้นทางศึกษาธรรมชาติ
สำหรับคนชอบเดินป่า มีเส้นทางธรรมชาติหลากหลาย ทั้งเดินสบายๆ หรือสายลุยขึ้นเขา ก็เลือกได้ตามสไตล์ - ชมป่าเมเปิ้ลแดง
ช่วงปลายปี (ประมาณเดือนธันวาคม-มกราคม) ใบเมเปิ้ลจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดงทั่วทั้งต้น ถ่ายรูปออกมาสวยเหมือนไปเที่ยวเมืองนอกเลยครับ
กิจกรรมแนะนำ
- กางเต็นท์นอนชมดาว
บรรยากาศตอนกลางคืนอากาศเย็นสบาย ฟ้าเปิด มองเห็นดาวเต็มท้องฟ้า เหมาะกับการมากางเต็นท์สุดๆ - เดินป่าศึกษาธรรมชาติ
เหมาะสำหรับคนที่อยากชมพืชพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า มีเจ้าหน้าที่นำทางให้ปลอดภัยด้วยครับ - เวลาเที่ยวที่ดีที่สุด
เดือนพฤศจิกายน – กุมภาพันธ์ ช่วงนี้อากาศเย็นที่สุด มีทะเลหมอกยามเช้า และบางวันมีโอกาสเจอเหมยขาบด้วย!

น้ำตกศรีดิษฐ์
น้ำตกศรีดิษฐ์ เป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวธรรมชาติที่ไม่ควรพลาดเลยถ้าไปเขาค้อ! น้ำตกนี้อยู่ไม่ไกลจากจุดท่องเที่ยวหลักๆ ของเขาค้อ เดินทางง่าย แถมบรรยากาศยังสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการมานั่งพักผ่อน หรือแวะเล่นน้ำเย็นๆ มากเลยนะ
จุดเด่นของน้ำตกศรีดิษฐ์
- น้ำตกศรีดิษฐ์ เป็นน้ำตกชั้นเดียวขนาดใหญ่ น้ำไหลตลอดทั้งปี ไม่ว่าจะหน้าร้อนหรือหน้าแล้งก็มักจะยังมีน้ำให้เห็น
- น้ำตกมีความกว้างประมาณ 30 เมตร และสูงประมาณ 10 เมตร น้ำที่ไหลตกลงมาเป็นม่านน้ำขนาดใหญ่ สวยและสดชื่นมาก
- ด้านล่างน้ำตกมีแอ่งน้ำให้เล่นน้ำได้ น้ำเย็นเจี๊ยบ ฟีลธรรมชาติแท้ๆ
- บริเวณรอบๆ เป็นป่าร่มรื่น มีต้นไม้ใหญ่ให้ร่มเงา เดินเล่น ถ่ายรูป หรือปูเสื่อนั่งชิลๆ ได้เลย
- ที่นี่เคยเป็นฐานที่มั่นของ “พรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทย” ด้วยนะ ยังมีร่องรอยประวัติศาสตร์หลงเหลือ เช่น โรงครัวเก่าของพรรคฯ และพื้นที่แสดงนิทรรศการเล็กๆ ด้วย
กิจกรรมที่ทำได้
- เดินเล่น ถ่ายรูปสวยๆ กับน้ำตกและธรรมชาติรอบๆ
- เล่นน้ำ พักผ่อน ปิกนิกในสวนใกล้น้ำตก
- เรียนรู้ประวัติศาสตร์นิดๆ กับพื้นที่แสดงเรื่องราวพรรคคอมมิวนิสต์ที่เคยอยู่ที่นี่
- ถ้าไปช่วงหน้าฝน น้ำจะเยอะและแรงเป็นพิเศษ สวยอลังการ!
ช่วงเวลาน่าไป
ไปได้ตลอดทั้งปีเลย แต่ถ้าให้แนะนำคือ
👉 ช่วงปลายฝน-ต้นหนาว (ก.ย. – พ.ย.)
น้ำเยอะ อากาศเย็นสบาย ธรรมชาติเขียวขจี
ถ้าหน้าร้อน น้ำอาจจะน้อยหน่อย แต่บรรยากาศยังดีเหมือนเดิม
การเดินทาง
น้ำตกศรีดิษฐ์อยู่ห่างจากตัวเมืองเขาค้อประมาณ 10 กม. ขับรถไปตามถนนสายหลัก มีป้ายบอกตลอดทาง ถนนดี ขับง่าย มีที่จอดรถ และมีร้านค้าเล็กๆ ขายของกิน ของฝากพื้นเมือง เช่น ผักสด ผลไม้ ปลูกจากชาวบ้านแถวนั้น

ภูหินร่องกล้า
ภูหินร่องกล้าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากในจังหวัดเพชรบูรณ์! ถ้าชอบการผจญภัยในธรรมชาติ และอยากเห็นวิวทิวทัศน์สวยๆ ที่ยังคงความเป็นธรรมชาติแบบดิบๆ ภูหินร่องกล้าคือคำตอบเลยครับ! ที่นี่เต็มไปด้วยทุ่งหญ้าเขียวขจี และยังมีประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจอีกด้วย
ทำไมต้องไปภูหินร่องกล้า?
- ทุ่งหญ้าสวยงาม
ภูหินร่องกล้ามีทุ่งหญ้ากว้างใหญ่ที่สามารถมองเห็นวิวภูเขาและทุ่งหญ้าสีเขียวสดใสได้จากจุดชมวิว - อากาศเย็นสบายตลอดปี
ที่นี่มีอากาศเย็นสดชื่นเกือบตลอดปี โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวจะหนาวเย็นถึงขั้นมีน้ำค้างแข็งเลยทีเดียว - เส้นทางธรรมชาติที่ท้าทาย
ถ้าชอบเดินป่าหรือท่องเที่ยวเชิงผจญภัยที่นี่เหมาะมาก มีเส้นทางเดินป่าที่จะพาคุณเข้าไปสำรวจธรรมชาติที่ยังคงความสมบูรณ์
ประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม
ภูหินร่องกล้ามีความสำคัญในทางประวัติศาสตร์ เพราะเคยเป็นฐานที่มั่นของกองกำลังพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศไทยในอดีต
อาคารร้าง: มีซากอาคารที่เคยเป็นที่ตั้งของพรรคคอมมิวนิสต์ รวมถึงอาวุธและเครื่องมือที่ถูกทิ้งไว้
พิพิธภัณฑ์: เป็นที่จัดแสดงข้อมูลประวัติศาสตร์และเหตุการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นในพื้นที่นี้
กิจกรรมที่ทำได้
เดินป่าหรือปีนเขา
ที่ภูหินร่องกล้ามีเส้นทางเดินป่าหลายเส้นทาง รวมถึงทางขึ้นยอดภูหินร่องกล้า ซึ่งจะพาคุณไปชมวิวทิวทัศน์อันงดงาม
แคมป์ปิ้ง
สามารถตั้งแคมป์ที่นี่ได้ โดยเฉพาะในช่วงฤดูหนาว อากาศเย็นสบายมาก แนะนำให้เตรียมเต็นท์ไปเอง หรือเลือกที่พักในแคมป์ที่มีให้บริการ
ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตก
บนยอดภูหินร่องกล้า มีจุดชมวิวที่สามารถเห็นพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงามมาก
เยี่ยมชมแหล่งประวัติศาสตร์
ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ หรือซากอาคารร้างที่สะท้อนเรื่องราวในอดีต
ช่วงเวลาน่าไป
- หน้าหนาว (พ.ย. – ก.พ.): เป็นช่วงที่อากาศดีที่สุด เย็นสบาย หมอกหนา และบางปีอาจมีน้ำค้างแข็งที่สร้างความประทับใจให้กับนักท่องเที่ยว
- หน้าฝน (ก.ค. – ก.ย.): เป็นช่วงที่ธรรมชาติที่นี่เขียวขจีเต็มที่ ทะเลหมอกหนา และสามารถทำกิจกรรมเดินป่าชมธรรมชาติได้
- หน้าร้อน (มี.ค. – พ.ค.): อากาศอาจจะร้อนแต่ยังคงเย็นสบาย หากจะไปเที่ยวในช่วงนี้ก็ต้องเตรียมตัวกับอุณหภูมิที่อาจสูงกว่า
การเดินทาง
- จากกรุงเทพฯ: ขับรถไปภูหินร่องกล้าใช้เวลาประมาณ 5-6 ชั่วโมง
- จากตัวเมืองเพชรบูรณ์: ใช้เวลาขับรถประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นไปที่ภูหินร่องกล้า เส้นทางที่คดเคี้ยวและบางช่วงอาจจะลื่นในฤดูฝน
- การเดินทางในพื้นที่: เส้นทางในภูหินร่องกล้าอาจจะต้องเดินทางด้วยรถยนต์ที่มีความแข็งแรงหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เนื่องจากเส้นทางบางเส้นไม่ค่อยดี

จุดเช็คอินเพชรบูรณ์ ภูแผงม้า
ภูแผงม้าเป็นอีกหนึ่งจุดท่องเที่ยวที่ยอดเยี่ยมในจังหวัดเพชรบูรณ์! เป็นภูเขาที่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาเยือนมากนักเมื่อเทียบกับภูเขาใหญ่ๆ ในเขาค้อหรือภูหินร่องกล้า แต่ภูแผงม้ามีความสงบและธรรมชาติที่สวยงามมาก เหมาะกับคนที่ต้องการหามุมสงบๆ หรือชอบเดินป่ามากๆ
ทำไมต้องไปภูแผงม้า?
วิวทิวทัศน์สวยงาม
ภูแผงม้ามีวิวทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ มองเห็นทั้งทุ่งหญ้าและยอดเขาที่อยู่ล้อมรอบ มีมุมถ่ายภาพที่ไม่เหมือนใคร
อากาศเย็นสบายตลอดปี
ที่ภูแผงม้าจะมีอากาศเย็นตลอดปี โดยเฉพาะช่วงฤดูหนาวที่อุณหภูมิอาจต่ำถึง 10 องศาเซลเซียส หรือบางปีอาจถึง 5 องศา
ความเงียบสงบ
จุดเด่นของภูแผงมาคือความสงบ ไม่มีความพลุกพล่านจากนักท่องเที่ยว คุณสามารถสัมผัสความเป็นธรรมชาติได้อย่างเต็มที่
เดินป่าระยะสั้น
ภูแผงม้ามีเส้นทางเดินป่าที่ไม่ยาวมาก สามารถเดินจากที่พักไปถึงจุดชมวิวได้แบบสบายๆ ไม่เหนื่อยเกินไป เหมาะสำหรับคนที่อยากเดินเที่ยวในธรรมชาติ
กิจกรรมที่ทำได้
- ชมวิวจากจุดชมวิว
จากยอดภูแผงม้าจะเห็นทิวทัศน์ของภูเขาและทุ่งหญ้าที่กว้างไกล เป็นมุมที่สามารถชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกได้อย่างสวยงาม - เดินป่าชมธรรมชาติ
มีเส้นทางเดินป่าที่พาคุณไปสู่จุดต่างๆ ที่เต็มไปด้วยต้นไม้และธรรมชาติที่สมบูรณ์ - ตั้งแคมป์
ถ้าชอบแคมป์ปิ้ง สามารถตั้งแคมป์ที่บริเวณยอดภูแผงม้าหรือใกล้ๆ กับจุดชมวิวได้ แต่ต้องเตรียมอุปกรณ์ให้พร้อม
ช่วงเวลาที่น่าไป
- ท่องเที่ยว หน้าฝน (ก.ค. – ก.ย.): ธรรมชาติที่ภูแผงม้าจะเขียวชอุ่ม อากาศเย็นสบาย และมองเห็นทะเลหมอกในช่วงเช้า
- หน้าหนาว (พ.ย. – ก.พ.): อากาศเย็นจัด เหมาะกับการตั้งแคมป์และชมพระอาทิตย์ขึ้นที่จุดชมวิว
- หน้าร้อน (มี.ค. – พ.ค.): อากาศอาจจะอุ่นขึ้น แต่ก็ยังคงเย็นและสบาย ไม่ร้อนจัด
การเดินทาง
จากกรุงเทพฯ: ขับรถจากกรุงเทพฯ ไปยังภูแผงม้าประมาณ 5-6 ชั่วโมง
จากเขาค้อ: ภูแผงม้าอยู่ไม่ไกลจากเขาค้อ ขับรถประมาณ 1-2 ชั่วโมง ขึ้นไปบนภูเขา
เส้นทางขึ้นภู: เส้นทางขึ้นภูแผงม้าเป็นทางขึ้นเขาที่คดเคี้ยว ควรใช้รถยนต์ที่มีสภาพดีหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ
จุดเช็คอินเพชรบูรณ์ วัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์

เพชรบูรณ์ไม่ได้มีแค่ธรรมชาติที่สวยงาม แต่ยังเต็มไปด้วย วัดและสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และศาสนา มาทำความรู้จักกับจุดเช็คอินเหล่านี้กันเลย
- วัดพระธาตุผาซ่อนแก้ว
จุดเด่น: วัดที่ตั้งอยู่บนภูเขาสูง สามารถชมวิวทิวทัศน์ของขุนเขาและทะเลหมอกได้อย่างงดงาม วัดนี้มีพระธาตุผาซ่อนแก้วที่เป็นที่เคารพของชาวพุทธ และพระพุทธรูปแกะสลักจากหินที่สวยงาม เป็นสถานที่ที่สงบเหมาะแก่การทำสมาธิ
กิจกรรม: ทำบุญ ไหว้พระ และชมวิวทิวทัศน์ - วัดหนองบัว
จุดเด่น: วัดที่มีอายุกว่า 100 ปี เป็นศูนย์กลางจิตใจของชาวบ้านในพื้นที่ และเป็นที่ตั้งของ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ ที่มีผู้คนเดินทางมาขอพรให้สมปรารถนา
กิจกรรม: สักการะพระพุทธรูป และเดินชมบรรยากาศเงียบสงบภายในวัด - วัดทุ่งเศรษฐี
จุดเด่น: วัดเก่าแก่ที่มีความเชื่อกันว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในการขอพรให้มีโชคลาภและความสำเร็จ วัดนี้ตั้งอยู่ในตำบลทุ่งเศรษฐี โดยมีวิหารและรูปปั้นพระพุทธรูปที่สวยงาม
กิจกรรม: ไหว้พระขอพร และชมสถาปัตยกรรม - วัดมหาธาตุ
จุดเด่น: วัดนี้มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่และเป็นสถานที่ที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ที่หลายคนรู้จักกันดี วัดตั้งอยู่ในตัวเมืองเพชรบูรณ์และมีบรรยากาศสงบ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการมาพักผ่อนใจ
กิจกรรม: สักการะพระพุทธรูปและชมความงามของวัด - วัดเขาค้อ
จุดเด่น: วัดที่ตั้งอยู่บนเขาค้อ สามารถชมวิวทิวทัศน์ของเขาค้อและทะเลหมอกได้อย่างยอดเยี่ยม จุดเด่นที่สำคัญคือพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ตั้งอยู่บนยอดเขา ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเยี่ยมชมที่นี่
กิจกรรม: ไหว้พระขอพร และถ่ายรูปกับวิวที่สวยงาม - พระบรมธาตุวัดพระบาทน้ำพุ
จุดเด่น: วัดที่มีความสำคัญทางศาสนาและมีพระบรมธาตุที่เป็นที่เคารพเลื่อมใสของผู้คนมากมาย เป็นสถานที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ
กิจกรรม: สักการะพระบรมธาตุ และเดินชมบริเวณรอบๆ วัดที่มีความสวยงามและเงียบสงบ - ศาลเจ้าพ่อพระยาแล
จุดเด่น: ศาลเจ้าพ่อพระยาแลถือเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ในจังหวัดเพชรบูรณ์ที่คนท้องถิ่นนับถือ มีความเชื่อกันว่าเจ้าพ่อพระยาแลเป็นผู้คุ้มครองป้องกันภัยจากศัตรู
กิจกรรม: ไหว้เจ้าพ่อพระยาแล และขอพรเพื่อความโชคดี
กิจกรรมที่แนะนำ:
ไหว้พระขอพร: ตามวัดต่างๆ ที่กล่าวถึงสามารถขอพรเรื่องโชคลาภ ความสำเร็จ และความสุข
ชมบรรยากาศ: หลายวัดอยู่ในทำเลที่สวยงาม สามารถเดินชมวิวธรรมชาติที่ล้อมรอบวัดได้
ถ่ายรูป: นอกจากกิจกรรมทางศาสนาแล้ว วัดหลายแห่งยังมีสถาปัตยกรรมและวิวทิวทัศน์ที่งดงาม ซึ่งเหมาะแก่การถ่ายรูปเก็บความทรงจำ
สถานที่สวยๆที่น่าไปในไทย เที่ยวพิจิตร , เที่ยวพิษณุโลก

