ข่าวทั่วไป

ข่าววันที่ 12 มีนาคม 2568

ข่าววันที่ 12 มีนาคม 2568

ข่าววันที่ 12 มีนาคม 2568 ผงะบุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้ผสมยาสลบ สูตรใหม่ทําให้เคลิ้ม ปคบ.บุกทลายถึงรัง วัยโจ๋ติดกันงอมแงม

ข่าววันที่ 12 มีนาคม 2568 ตำรวจหลายหน่วยดึ๋งดั๋งจับบุหรี่ไฟฟ้าสนองนโยบายรัฐบาล รายแรก ปคบ.บุกทลายแหล่งผลิต “บุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้” เจ้าแรกในไทย ต้นตอแพร่ระบาดในหมู่วัยรุ่น สาวพีอาร์และนักเที่ยวราตรี

เผยผู้ต้องหาเป็นหนุ่มเจ้าของร้านขายกัญชาก่อนซื้อยาสลบมาผสมในน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าแล้วขายออนไลน์ตัวละประมาณ 2,200 บาทต่อชิ้น

วันหนึ่งขายได้ 40-50 อัน รับเงินเป็นแสน รายที่ 2 ตำรวจไซเบอร์ค้น 3 จุด รวบ 3 ผู้ต้องหา ยึดของกลางกว่า 2,400 ชิ้น อีกคดี ผบช.ภ.1 แถลงจับกุมบุหรี่ไฟฟ้า 145 คดี ทั้งผู้ค้ารายใหญ่และขายทางออนไลน์ ของกลางอื้อมูลค่า 14 ล้าน

ตำรวจลุยจับบุหรี่ไฟฟ้าสนองนโยบายรัฐบาล เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 11 มี.ค. พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา พ.ต.อ.พัฒนพงศ์ ศรีพิณเพราะ รอง ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. พ.ต.ท.วิศรุต บางน้ำเค็ม สว.กก.1 บก.ปคบ. นำกำลังตรวจค้นห้องพักใน Blossom Condo แขวงรามอินทรา เขตคันนายาว กทม. จับกุมนายกันชัย ฤกษ์แสนสุข อายุ 39 ปี พร้อมของกลาง

หัวบุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้ ผสมสารเอโทมีเดท (Etomidate) ที่รอจำหน่ายกว่า 335 หัว มูลค่าประมาณ 737,000 บาท สารเอโทมีเดทบรรจุในขวดภาชนะ 12 ขวด ทองรูปพรรณ แหวนทอง รวมน้ำหนัก 15 บาท มูลค่า 600,000 บาท

ทองคำแท่งน้ำหนัก 25 บาท มูลค่า 1 ล้านบาท กระเป๋าแบรนด์เนม 5 ใบ มูลค่า 200,000 บาท รถเก๋งฮอนด้า ซิตี้ สีดำ 1 คัน มูลค่า 450,000 บาท สมุดบัญชีเงินฝาก 1 เล่ม มียอดเงินในบัญชี 7 หมื่นบาท รวมถึงอุปกรณ์ส่วนควบอีกหลายรายการ

พล.ต.ต.พัฒนศักดิ์ บุบผาสุวรรณ ผบก.ปคบ. กล่าวว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล สั่งการให้เร่งกวาดล้างปราบปรามผู้ค้าบุหรี่ไฟฟ้าเป็นการด่วน อีกทั้งยังพบว่ามีผู้ค้าบางรายนำสารเอโทมีเดท (Etomidate)

หรือยาสลบที่ใช้ในวงการแพทย์เป็นส่วนผสมให้เกิดความมึนเมาเคลิบเคลิ้ม กลุ่มผู้เสพจะเรียกกันว่า “บุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้” หรือ “พอตเค” สั่งการให้ชุดจับกุมเร่งสืบหาต้นตอแหล่งผลิต ก่อนพบกลุ่มโอเพ่นแชตแอปพลิเคชันไลน์กลุ่มหนึ่งลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้ ได้ติดต่อล่อซื้อพร้อมขยายผลตรวจสอบเส้นทางการเงินจนทราบว่า

ผู้ริเริ่มผลิตบุหรี่ไฟฟ้าดังกล่าวนำมาขายให้กับลูกค้ารายแรกๆจนแพร่ระบาดในหมู่วัยรุ่น คือนายกันชัยผู้ต้องหาเจ้าของร้านขายกัญชาย่านรามอินทรา โดยนายกันชัยจะใช้ห้องพักที่คอนโดดังกล่าวเป็นสถานที่ผลิต ได้ขออำนาจศาลออกหมายค้นนำกำลังเข้าตรวจสอบจับกุมได้พร้อมของกลาง เป็นเคสแรกที่พบว่าผลิตหรือผสมสารเองในประเทศไทย เพราะส่วนใหญ่บุหรี่ไฟฟ้าจะลักลอบนำเข้ามาจากต่างประเทศ

พ.ต.อ.ไกรวิศท์ แสนทวีสุข ผกก.1 บก.ปคบ. กล่าวว่า นายกันชัยรับสารภาพ น้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าซื้อมาจากร้านเคมีภัณฑ์ทั่วไป ส่วนสารเอโทมีเดท (Eto midate) หรือยาสลบ ซื้อต่อจากชาวจีนที่ลักลอบนำเข้ามาอีกทอดแล้วนำมาผสมกับน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าขายต่อลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์ในราคาตัวละประมาณ 2,200 บาท ทำมาได้ 3-4 เดือน มีรายได้ เฉลี่ยวันละ 2 หมื่นบาท เบื้องต้นแจ้งข้อหา

“การขายสินค้าที่คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคสั่งห้ามขาย (บุหรี่ไฟฟ้าและน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า) อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภค” นำตัวส่ง กก.1 บก.ปคบ.ขยายผล

รายงานข่าวแจ้งว่า จากการตรวจสอบประวัตินายกันชัยพบว่า เคยถูกจับคดีลักลอบค้ากัญชา อยู่ในเรือนจำประมาณ 3 ปีในสมัยช่วงที่กัญชายังเป็นยาเสพติดก่อนเพิ่งพ้นโทษออกมา เป็นจังหวะเดียวกับปรับแก้กฎหมายกัญชาเสรี หันมาเปิดร้านขายกัญชาอย่างถูกต้องตามกฎหมายก่อนจะผันตัวมารับผลิตบุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้ขายออนไลน์เป็นอาชีพเสริม

ลูกค้าส่วนใหญ่จะเป็นกลุ่มนักเที่ยวกลางคืนสายปาร์ตี้และสาวพีอาร์สถานบันเทิง อย่างไรก็ตาม จากการตรวจสอบเส้นทางการเงินรวมถึงบัญชีการซื้อขายกับกลุ่มลูกค้าพบว่า แต่ละวันจะสามารถจำหน่ายหัวพอตบุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้ 40-50 หัวต่อวัน หรือมีเงินรายได้จากการขายหัวบุหรี่ไฟฟ้าซอมบี้ประมาณ 1 แสนบาทต่อวัน

วันเดียวกัน พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช. สอท. แถลงผลกวาดล้างอาชญากรรมทางออนไลน์ จับกุมลักลอบการจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า โดยชุดสืบสวน กก.3 บก.สอท.2 เข้าค้นเป้าหมาย 3 จุดในกรุงเทพฯ 1 จุด และพื้นที่ จ.นครปฐมอีก 2 จุด ยึดของกลางรวมกว่า 2,400 ชิ้น อาทิ บุหรี่ไฟฟ้าแบบใช้แล้วทิ้งจำนวน 1,389 ชิ้น

พอตน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจำนวน 1,036 ชิ้น เครื่องบุหรี่ไฟฟ้า 16 ชิ้น และอุปกรณ์อื่นๆ อีกหลายรายการ จับกุมนายธนาธิป อุ่นจิตติ อายุ 27 ปี นายธนากร คำหอม อายุ 25 ปี และนายพัชรพล ทามี อายุ 25 ปี ดำเนินคดี

อีกราย พล.ต.ท.สุรพล เปรมบุตร ผบช.ภ.1 แถลงข่าวผลกวาดล้างจับกุมบุหรี่ไฟฟ้าพร้อมของกลางจำนวนมาก จับกุมบุหรี่ไฟฟ้า 145 คดี ผู้ค้ารายใหญ่และจำหน่ายทางออนไลน์จำนวน 11 คดี ผู้ต้องหารวม 20 คน

ของกลางบุหรี่ไฟฟ้าและอุปกรณ์ รวม 69,066 ชิ้น มูลค่า 11,612,650 ล้านบาท จับกุมรายย่อย 134 คดี ผู้ต้องหา 137 คน ของกลาง 8,487 ชิ้น มูลค่า 3,035,350 ล้านบาท

ที่มาข่าว: ไทยรัฐออนไลน์ (https://www.thairath.co.th/news/local/2846623)

ท่องเที่ยวไทย