เที่ยวกาฬสินธุ์ 10 จุดเช็กอินห้ามพลาด วัฒนธรรมและธรรมชาติที่สวยงาม

จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีชื่อเสียงด้านวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ และธรรมชาติที่สวยงาม เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ของวิถีชีวิตแบบอีสานแท้ ๆ กาฬสินธุ์เป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วยธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมที่น่าสนใจ นี่คือ 10 สถานที่ท่อง เที่ยวกาฬสินธุ์ ที่ไม่ควรพลาด
เที่ยวกาฬสินธุ์ 10 จุดเช็กอินห้ามพลาด

1. พิพิธภัณฑ์สิรินธร
พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ตั้งอยู่ที่อำเภอสหัสขันธ์ ภายในมีฟอสซิลไดโนเสาร์และนิทรรศการเกี่ยวกับยุคดึกดำบรรพ์ พิพิธภัณฑ์สิรินธร เป็นพิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และถือเป็นแหล่งศึกษาทางธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาที่สำคัญของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งอยู่ที่ อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
สิ่งที่น่าสนใจภายในพิพิธภัณฑ์
โซนนิทรรศการ
- แสดงฟอสซิลไดโนเสาร์ที่ขุดพบในประเทศไทย เช่น ไดโนเสาร์กินพืช และไดโนเสาร์กินเนื้อ
- แบบจำลองโครงกระดูกไดโนเสาร์ขนาดเท่าของจริง
- การเล่าเรื่องเกี่ยวกับยุคดึกดำบรรพ์ การกำเนิดโลก และวิวัฒนาการของสิ่งมีชีวิต
ศูนย์วิจัยและห้องปฏิบัติการ
- นักวิจัยและนักศึกษาสามารถเข้ามาศึกษาเกี่ยวกับซากดึกดำบรรพ์
- มีการเก็บรักษาฟอสซิลแท้ และมีการศึกษาทางธรณีวิทยา
โซนกิจกรรมและของที่ระลึก
- มีกิจกรรมให้เด็ก ๆ ได้ทดลองเป็นนักบรรพชีวิน เช่น การขุดซากฟอสซิลจำลอง
- ร้านขายของที่ระลึกเกี่ยวกับไดโนเสาร์
เวลาเปิด-ปิด
เปิดทุกวัน เวลา 09:00 – 17:00 น.
ค่าเข้าชม
ผู้ใหญ่ 30 บาท
เด็ก 10 บาท
ชาวต่างชาติ 100 บาท
(อาจมีการเปลี่ยนแปลง ควรเช็คข้อมูลล่าสุดก่อนเดินทาง)

2. เที่ยวกาฬสินธุ์ ภูแฝกและภูสิงห์
ภูแฝก และ ภูสิงห์ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีทิวทัศน์สวยงาม เหมาะกับการเดินป่า แคมป์ปิ้ง และชมวิวมุมสูงของจังหวัดกาฬสินธุ์ โดยทั้งสองแห่งตั้งอยู่ใน อำเภอสหัสขันธ์ และอยู่ไม่ไกลจาก พิพิธภัณฑ์สิรินธร สถานที่ชมวิวที่สวยงามของกาฬสินธุ์ มีจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่งดงาม รวมถึงหินรูปร่างแปลกตา
วนอุทยานภูแฝก
ตั้งอยู่ใน ตำบลโนนบุรี อำเภอสหัสขันธ์
จุดเด่น
- วิวทะเลหมอกและพระอาทิตย์ขึ้น – เหมาะกับการมาชมพระอาทิตย์ขึ้นตอนเช้า พร้อมทะเลหมอกยามหนาว
- จุดชมวิวเหนือเขื่อนลำปาว – สามารถมองเห็นทัศนียภาพของเขื่อนลำปาวและตัวเมืองกาฬสินธุ์
- เส้นทางเดินป่า – มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติที่สามารถเดินชมพันธุ์ไม้และสัตว์ป่า
- หินรูปร่างแปลกตา – มีโขดหินขนาดใหญ่และหินรูปร่างต่าง ๆ ให้ชม
การเดินทาง: จากตัวเมืองกาฬสินธุ์ ใช้เส้นทางไปอำเภอสหัสขันธ์ ประมาณ 40 กิโลเมตร
ภูสิงห์
ตั้งอยู่ใน ตำบลภูสิงห์ อำเภอสหัสขันธ์
จุดเด่น
- หินรูปสิงโต (หินช้างหัวนา) – แลนด์มาร์กสำคัญของภูสิงห์ เป็นหินธรรมชาติที่มีลักษณะคล้ายสิงโต
- สกายวอล์คภูสิงห์ – จุดชมวิวกระจกใสที่สามารถมองเห็นวิวมุมสูงของเขื่อนลำปาวและอำเภอสหัสขันธ์
- ถ้ำและหินธรรมชาติ – ภายในภูสิงห์มีถ้ำและก้อนหินขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ
- บรรยากาศสงบ เหมาะแก่การพักผ่อน – เหมาะสำหรับสายธรรมชาติที่ต้องการความเงียบสงบ
การเดินทาง: อยู่ห่างจากพิพิธภัณฑ์สิรินธรประมาณ 10 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 20 นาที

3.วัดพุทธนิมิตภูค่าว
วัดพุทธนิมิตภูค่าว เป็นวัดเก่าแก่ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ ตั้งอยู่บน ภูค่าว ใน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ เป็นสถานที่ที่เต็มไปด้วยเรื่องราวทางพุทธศาสนา และมีวิวธรรมชาติที่สวยงาม วัดเก่าแก่ที่มี “พระพุทธไสยาสน์ภูค่าว” พระนอนที่มีอายุหลายร้อยปี และภาพจิตรกรรมฝาผนังที่ทรงคุณค่า
จุดเด่นของวัดพุทธนิมิตภูค่าว
- พระพุทธไสยาสน์ศักดิ์สิทธิ์
พระพุทธรูปปางไสยาสน์เก่าแก่ ที่แกะสลักจากหินทรายบนผนังถ้ำ เชื่อกันว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ สมัยทวารวดี อายุหลายร้อยปี เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน - โขดหินธรรมชาติและภาพแกะสลักหินโบราณ
มีหินขนาดใหญ่ที่มีรอยแกะสลักพุทธประวัติและรอยพระพุทธบาทจำลอง เชื่อกันว่าเป็นสถานที่ที่เคยใช้บำเพ็ญเพียรของพระอริยสงฆ์ - ทิวทัศน์สวยงามบนยอดภูค่าว
สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของพื้นที่รอบ ๆ ได้แบบพาโนรามา เหมาะสำหรับการมาปฏิบัติธรรมและพักผ่อนจิตใจ - บรรยากาศสงบ ร่มรื่น เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม
วัดแห่งนี้เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์และผู้แสวงบุญ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการปลีกวิเวกและเติมพลังใจ
การเดินทาง
ตั้งอยู่ที่ บ้านภูค่าว ตำบลนิคมห้วยผึ้ง อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์
จากตัวเมืองกาฬสินธุ์ – ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 227 ไปทางอำเภอคำม่วง ประมาณ 70 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 1.5 ชั่วโมง

4. เขื่อนลำปาว
เขื่อนลำปาว เป็นเขื่อนดินขนาดใหญ่ที่สำคัญของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ใน อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ มีบทบาทสำคัญในด้านการเกษตร การประมง และการท่องเที่ยว ถือเป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวกาฬสินธุ์และนักท่องเที่ยว เป็นแหล่งน้ำสำคัญของจังหวัด เหมาะสำหรับพักผ่อน นั่งชิลริมน้ำ และชมพระอาทิตย์ตก
ไฮไลต์ของเขื่อนลำปาว
- สะพานเทพสุดา – สะพานข้ามน้ำที่ยาวที่สุดในภาคอีสาน
สะพานเทพสุดามีความยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร พาดผ่านเขื่อนลำปาว เป็นจุดชมวิวที่สามารถมองเห็นน้ำและทิวทัศน์รอบเขื่อนได้แบบพาโนรามา - หาดดอกเกด – ชายหาดน้ำจืดแห่งกาฬสินธุ์
เป็นจุดเล่นน้ำและพักผ่อนริมเขื่อน มีร้านอาหารที่ให้บริการอาหารพื้นเมือง โดยเฉพาะเมนูปลาเผาสด ๆ จากเขื่อน - ชมพระอาทิตย์ตกสุดโรแมนติก
เขื่อนลำปาวเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งในกาฬสินธุ์ บรรยากาศยามเย็นเงียบสงบ เหมาะสำหรับการพักผ่อน - นั่งเรือชมวิวและตกปลา
นักท่องเที่ยวสามารถเช่าเรือเพื่อชมวิวกลางเขื่อนได้ หรือจะตกปลาเพื่อสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงในพื้นที่ - สักการะหลวงปู่หนูอินทร์ วัดป่าพุทธมงคล
อยู่ใกล้กับเขื่อนลำปาว เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมและกราบไหว้พระเพื่อความเป็นสิริมงคล
การเดินทาง
ตั้งอยู่ที่: อำเภอเมืองกาฬสินธุ์ ห่างจากตัวเมืองประมาณ 17 กิโลเมตร
เส้นทาง: ใช้ถนนทางหลวงหมายเลข 214 หรือ 213 ใช้เวลาขับรถประมาณ 30 นาที

5. เที่ยวกาฬสินธุ์ สะพานเทพสุดา
สะพานเทพสุดา เป็นสะพานที่ทอดข้าม เขื่อนลำปาว ตั้งอยู่ใน อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ถือเป็นแลนด์มาร์กสำคัญของจังหวัดและเป็นจุดชมวิวที่สวยงามแห่งหนึ่งของภาคอีสาน
ไฮไลต์ของสะพานเทพสุดา
- สะพานข้ามน้ำที่ยาวที่สุดในภาคอีสาน
ความยาวกว่า 2.5 กิโลเมตร เชื่อมระหว่าง อำเภอสหัสขันธ์ และ อำเภอหนองกุงศรี นักท่องเที่ยวสามารถเดินเล่น ปั่นจักรยาน หรือขับรถชมวิวได้ - วิวเหนือเขื่อนลำปาวสุดอลังการ
สะพานแห่งนี้เป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม สามารถมองเห็นผืนน้ำกว้างใหญ่ของเขื่อนลำปาว - จุดพักชมวิว และรูปปั้นพญานาคริมสะพาน
มีลานชมวิวพร้อม รูปปั้นพญานาค ที่เป็นสัญลักษณ์ของเมือง ชาวบ้านเชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ - บรรยากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน
นักท่องเที่ยวสามารถมานั่งรับลม ปั่นจักรยาน หรือถ่ายรูปสวย ๆ ได้ตลอดทั้งวัน - ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ
อยู่ใกล้ พิพิธภัณฑ์สิรินธร (พิพิธภัณฑ์ไดโนเสาร์) และ วัดพุทธนิมิตภูค่าว
การเดินทาง
ที่ตั้ง: อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
จากตัวเมืองกาฬสินธุ์: ใช้ทางหลวงหมายเลข 227 ขับรถประมาณ 40 นาที (30 กิโลเมตร)

6. เที่ยวกาฬสินธุ์ ผาเสวย
เที่ยวไทย ผาเสวย เป็นหน้าผาที่มีความสำคัญทั้งทางประวัติศาสตร์และธรรมชาติ ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติภูพาน อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์ จุดนี้เป็นสถานที่ชมวิวที่สวยงามของภาคอีสาน และมีเรื่องราวเกี่ยวข้องกับ ในหลวงรัชกาลที่ 9
ไฮไลต์ของผาเสวย
- จุดชมวิวสุดอลังการ
ตั้งอยู่บน เทือกเขาภูพาน สามารถมองเห็นวิวป่าไม้ ทิวเขาสลับซับซ้อน และอ่างเก็บน้ำด้านล่าง - ความสำคัญทางประวัติศาสตร์
ที่มาของชื่อ “ผาเสวย” – ในปี พ.ศ. 2498 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เสด็จประพาสและทรงเสวยพระกระยาหารที่จุดนี้ จึงได้รับการตั้งชื่อว่า “ผาเสวย” - จุดชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตกสุดโรแมนติก
นักท่องเที่ยวสามารถชม พระอาทิตย์ขึ้นและตก ที่สวยงามมากแห่งหนึ่งในกาฬสินธุ์ - เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
ผาเสวยเป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติภูพาน มีเส้นทางศึกษาธรรมชาติ เหมาะสำหรับนักเดินป่าและผู้ที่ชื่นชอบการผจญภัย - อากาศเย็นสบายตลอดปี
บรรยากาศที่ผาเสวยค่อนข้างเย็นและเงียบสงบ เพราะอยู่บนเทือกเขาภูพาน
การเดินทาง
ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูพาน อำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
จากตัวเมืองกาฬสินธุ์: ใช้ทางหลวงหมายเลข 213 (กาฬสินธุ์-สกลนคร) ประมาณ 50 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถประมาณ 1 ชั่วโมง

7. พระธาตุยาคู
พระธาตุยาคู เป็นโบราณสถานสำคัญของ เมืองฟ้าแดดสงยาง ใน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์ ถือเป็น พระธาตุที่ใหญ่และเก่าแก่ที่สุดในกาฬสินธุ์ มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์และพุทธศาสนา โบราณสถานเก่าแก่ของชาวอีสานที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยทวารวดี ตั้งอยู่ที่อำเภอกมลาไสย เป็นแหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์ที่สำคัญ
จุดเด่นของพระธาตุยาคู
- พระธาตุเก่าแก่ สมัยทวารวดี
มีอายุราว พันปี สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นตั้งแต่ พุทธศตวรรษที่ 13-15 เป็นสถาปัตยกรรมแบบทวารวดีตอนปลาย - องค์พระธาตุทรงแปดเหลี่ยม
ฐานองค์พระธาตุเป็นรูปแปดเหลี่ยม แล้วค่อย ๆ ลดระดับเป็นทรงสี่เหลี่ยม และยอดเป็นเจดีย์สมัยล้านช้าง - ตำนานเกี่ยวกับ “ยาคู”
คำว่า “ยาคู” หมายถึง พระภิกษุสงฆ์ระดับสูง เชื่อกันว่าเป็นที่บรรจุ อัฐิของพระเถระผู้ใหญ่ในอดีต - เมืองฟ้าแดดสงยาง – เมืองโบราณทวารวดี
พระธาตุยาคูเป็นส่วนหนึ่งของ เมืองฟ้าแดดสงยาง เมืองโบราณที่มี ซากกำแพงเมืองและคูน้ำโบราณ - งานนมัสการพระธาตุยาคู
จัดขึ้นทุกปีในช่วง วันมาฆบูชา มีการทำบุญ ตักบาตร และฟังเทศน์
การเดินทาง
ที่ตั้ง: ตำบลหนองแปน อำเภอกมลาไสย จังหวัดกาฬสินธุ์
จากตัวเมืองกาฬสินธุ์: ใช้ทางหลวงหมายเลข 213 (กาฬสินธุ์-มหาสารคาม) ระยะทางประมาณ 19 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถ 30 นาที

8. วนอุทยานภูพระ
วนอุทยานภูพระ เป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติและศาสนา ตั้งอยู่ใน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ มีความโดดเด่นในเรื่องของ ทิวทัศน์สวยงามและความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธรูปโบราณ แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีป่าไม้สมบูรณ์ และเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์
ไฮไลต์ของวนอุทยานภูพระ
- พระพุทธรูปหินทรายโบราณ
ภายในวนอุทยานมี พระพุทธรูปหินทรายเก่าแก่ ประดิษฐานอยู่กลางป่า เชื่อกันว่ามีอายุหลายร้อยปีและเป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้าน - จุดชมวิวธรรมชาติสุดงดงาม
จากยอดภูพระสามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ของ ทุ่งนาและป่าไม้ โดยรอบ เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบธรรมชาติและความเงียบสงบ - เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ
มีเส้นทางเดินป่าผ่านป่าเบญจพรรณและโขดหินธรรมชาติ นักท่องเที่ยวสามารถเดินขึ้นไปกราบไหว้พระพุทธรูปและสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ - บรรยากาศสงบ ร่มรื่น เหมาะกับการปฏิบัติธรรม
วนอุทยานภูพระเป็นสถานที่ปลีกวิเวก เหมาะแก่การปฏิบัติธรรมและทำสมาธิ
การเดินทาง
ที่ตั้ง: ตำบลนาบอน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์
จากตัวเมืองกาฬสินธุ์: ใช้ทางหลวงหมายเลข 227 ไปทางอำเภอคำม่วง ประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถ ประมาณ 1.5-2 ชั่วโมง

9. หมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทยโคกโก่ง
หมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทยโคกโก่ง เป็นหมู่บ้านท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ตั้งอยู่ใน อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์ ที่นี่เป็นชุมชนชาว ผู้ไทย ที่ยังคงรักษาขนบธรรมเนียมและวิถีชีวิตดั้งเดิมไว้อย่างเหนียวแน่น ชุมชนที่ยังคงรักษาวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวผู้ไทย มีการแสดงฟ้อนรำพื้นบ้าน และสัมผัสวิถีชีวิตแบบดั้งเดิม
ไฮไลต์ของหมู่บ้านวัฒนธรรมผู้ไทยโคกโก่ง
- สัมผัสวัฒนธรรมชาวผู้ไทยแท้ ๆ
ชาวผู้ไทยโคกโก่งยังคงรักษาภาษา การแต่งกาย อาหาร และประเพณีพื้นบ้านไว้อย่างครบถ้วน นักท่องเที่ยวสามารถเรียนรู้และทดลองใช้ชีวิตแบบชาวผู้ไทย - การแสดงศิลปะพื้นบ้าน “เซิ้งผู้ไทย”
ชมการแสดงฟ้อนรำและเซิ้งผู้ไทย ซึ่งเป็นการเต้นรำพื้นเมืองที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของชาวผู้ไทย - อาหารพื้นบ้านรสเด็ด
ลิ้มรสอาหารพื้นบ้าน เช่น หมกหม้อ ต้มเปรอะ แจ่วบอง และข้าวจี่ ซึ่งเป็นเมนูพื้นเมืองที่ทำจากวัตถุดิบในท้องถิ่น - เรียนรู้หัตถกรรมพื้นเมือง
ทดลองทำ ผ้ามัดหมี่ผู้ไทย งานจักสาน และเครื่องเงิน ซึ่งเป็นงานฝีมือที่สืบทอดกันมาหลายชั่วอายุคน - นอนโฮมสเตย์ สัมผัสวิถีชีวิตจริง
นักท่องเที่ยวสามารถเข้าพักแบบโฮมสเตย์กับชาวบ้าน ได้สัมผัสการใช้ชีวิตแบบผู้ไทยแท้ ๆ - ศูนย์เรียนรู้ป่าเศรษฐกิจพอเพียง
ศึกษาการทำเกษตรอินทรีย์ตามแนวพระราชดำริ และวิถีชีวิตแบบพึ่งพาธรรมชาติ
การเดินทาง
ที่ตั้ง: ตำบลสงเปลือย อำเภอคำม่วง จังหวัดกาฬสินธุ์
จากตัวเมืองกาฬสินธุ์: ใช้ทางหลวงหมายเลข 227 ไปทางอำเภอคำม่วง ระยะทาง ประมาณ 90 กิโลเมตร ใช้เวลาขับรถ ประมาณ 1.5 – 2 ชั่วโมง

10. หาดดอกเกด
หาดดอกเกด เป็นสถานที่พักผ่อนยอดนิยมของชาวกาฬสินธุ์ ตั้งอยู่ริม เขื่อนลำปาว อำเภอสหัสขันธ์ เป็นชายหาดน้ำจืดที่มีบรรยากาศคล้ายทะเล เหมาะสำหรับการพักผ่อน เล่นน้ำ และทานอาหารอร่อยริมชายหาด
ไฮไลต์ของหาดดอกเกด
- บรรยากาศเหมือนทะเล น้ำใส สายลมเย็น
ถึงแม้จะเป็น หาดน้ำจืด แต่ที่นี่มี หาดทรายทอดยาว น้ำใสสะอาด และวิวสวยงามเหมือนทะเลจริง ๆ - เล่นน้ำและกิจกรรมทางน้ำสนุก ๆ
นักท่องเที่ยวสามารถเล่นน้ำ เช่าห่วงยาง หรือพายเรือเล่นได้ เหมาะสำหรับครอบครัวและกลุ่มเพื่อนที่อยากพักผ่อนแบบชิล ๆ - ร้านอาหารริมหาด บรรยากาศดี
มีร้านอาหารเรียงรายอยู่ริมชายหาด เสิร์ฟอาหารอีสานแซ่บ ๆ เช่น ส้มตำ ไก่ย่าง ปลาเผา และกุ้งเต้น พร้อมบรรยากาศแบบธรรมชาติ - ชมวิวพระอาทิตย์ตกสวยงาม
ในช่วงเย็น หาดดอกเกดเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยมาก เหมาะสำหรับคนที่ชอบถ่ายรูปหรือมานั่งพักผ่อนรับลมเย็น ๆ - อยู่ใกล้แหล่งท่องเที่ยวอื่น ๆ
อยู่ไม่ไกลจาก สะพานเทพสุดา และวัดพุทธนิมิตภูค่าว สามารถแวะเที่ยวต่อได้
การเดินทาง
ที่ตั้ง: อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์
จากตัวเมืองกาฬสินธุ์: ใช้ทางหลวงหมายเลข 227 ขับรถประมาณ 40 กิโลเมตร (ประมาณ 45 นาที)
กาฬสินธุ์มีทั้งแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรม ใครชอบแบบไหนก็เลือกไปเที่ยวกันได้เลย
สถานที่ท่องเที่ยวในไทย อื่นๆ : ท่องเที่ยวกระบี่ , สตรีทฟู้ด กรุงเทพ

