ข่าวทั่วไป

ข่าววันที่ 7 มีนาคม 2568

ข่าววันที่ 7 มีนาคม 2568

ข่าววันที่ 7 มีนาคม 2568 เมียใจอํามหิต ลวงฆ่าโหด รปภ. เค้นจนยอมรับ ร่วมมือลูกชายรัดคอพ่อเลี้ยง ทิ้งศพข้างถนน

ข่าววันที่ 7 มีนาคม 2568 เมียโหดรับสิ้นร่วมกับลูกชายที่เกิดจากผัวเก่า วางแผนฆ่าผัว รปภ. นำศพไปทิ้งขึ้นอืดในป่ากระถินริมถนน อ้างแค้นโดนผู้ตายทำร้ายบ่อย แถมหลอกจะแบ่งเงิน 3 แสนจากขายที่ดินให้ สุดท้ายขายไม่ได้ นัดแนะลูกชายขับรถกระบะไปรับพ่อเลี้ยงกลับบ้าน

แล้วสับเปลี่ยนให้ลูกย้ายไปนั่งเบาะแค็บ ตัวเองเป็นคนขับ ส่วนผู้ตายนั่งเบาะข้าง สบโอกาสลูกชายใช้สายยางรัดคอทางด้านหลังดับสยองคามือ นำศพไปทิ้ง ใช้กระสอบปุ๋ยปิดอำพราง

จากคดีอุ้มฆ่าอำมหิตนายวัชระ หรือเบื๊อก นกงาม อายุ 52 ปี ชาว อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี อาชีพ รปภ.บริษัทหนึ่งใน อ.บ้านฉาง จ.ระยอง ถูกฆาตกรโหดนำศพมาทิ้งขึ้นอืดในป่ากระถินริมทางหลวง 331 (สัตหีบ-ฉะเชิงเทรา) หมู่ 10 ต.โป่ง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี เมื่อวันที่ 4 มี.ค.ที่ผ่านมา

มีกระสอบปุ๋ยและถุงพลาสติกปิดอำพรางสายตาผู้คน หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี นำชุดสืบสวนลงพื้นที่หาเบาะแสคนร้าย พร้อมทั้งเรียกเมียผู้ตายมาสอบสวนหลายครั้ง หลังให้การพิรุธตั้งแต่พบศพวันแรก

ในที่สุดเมียรับสารภาพสิ้นไส้ร่วมกับลูกชายติดผัวเก่ารัดคอฆ่านายวัชระพ่อเลี้ยง เมื่อเวลา 08.00 น. วันที่ 6 มี.ค. พ.ต.อ.อรรถพล อิทธโยภาสกุลผกก.สภ.ห้วยใหญ่ อ.บางละมุง พร้อมพนักงานสอบสวนร่วมกันสอบปากคำนางรัตติกาล หรือเปิ้ล นกงาม อายุ 46 ปี เมียนายวัชระ และนายวรยุทธ์

หรือต้น กลีบบัว อายุ 30 ปี ลูกชายนางรัตติกาลที่เกิดจากสามีเก่า หลังจากเมื่อวันที่ 6 มี.ค. ตำรวจนำตัวสองแม่ลูกมาสอบสวนอย่างเคร่งเครียดนานกว่า 10 ชม. กระทั่งดึกทั้งคู่ยอมรับสารภาพว่าร่วมกันฆ่านายวัชระ

นางรัตติกาลเล่าเหตุการณ์ว่า ก่อนเกิดเหตุวันที่ 1 มี.ค. นายวรยุทธ์ ลูกชาย ขับรถกระบะโตโยต้า วีโก้ แค็บ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน บห 8579 ราชบุรี จากบ้านในพื้นที่ อ.แก่งหางแมว จ.จันทบุรี มารับตนที่บ้านพัก อ.นิคมพัฒนา จ.ระยอง เพื่อไปรับนายวัชระที่เพิ่งลาออกจาก รปภ.ใน อ.บ้านฉาง

และชวนไปบ้านลูกชายที่ อ.แก่งหางแมว ก่อนออกจากที่พักได้วางแผนให้ตนเป็นคนขับรถ ส่วนนายวรยุทธ์ ลูกชายนั่งแค็บด้านหลังแล้วให้นายวัชระไปนั่งเบาะหน้าข้างคนขับ ใช้เส้นทางถนนสุขุมวิทก่อนตัดเข้าถนนสาย 36 (กระทิงลาย-พัทยา-ระยอง)

เมียผู้ตายให้การอีกว่า ระหว่างมาถึงบริเวณโรงกลั่นน้ำมันใกล้แยกบ้านแลง อ.เมืองระยอง นายวรยุทธ์ใช้สายยางรัดคอพ่อเลี้ยงเสียชีวิต จากนั้นขับรถวนอยู่ถึงเช้าวันที่ 1 มี.ค. ก่อนขับกลับบ้าน อ.นิคมพัฒนา เมื่อไปถึงย้ายผู้ตายไปนอนที่เบาะแค็บหลังแล้วนำผ้าห่มคลุมรถกันไม่ให้คนเดินผ่านมองเห็นศพ

รอจนเที่ยงคืนขับรถนำศพไปทิ้งป่ากระถินริมทางหลวงสาย 331 หมู่ 10 ต.โป่ง อ.บางละมุง ใช้กระสอบคลุมไว้ จากนั้นลูกชายขับรถไปส่งตนที่ อ.นิคมพัฒนา แล้วขับกลับ อ.แก่งหางแมว ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ก่อนถูกตำรวจเรียกไปสอบ ส่วนสาเหตุอ้างว่ามาจากความคับแค้นใจที่ถูกผู้ตายทำร้าย

ต่อมาช่วงสาย พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเสนอศาลจังหวัดพัทยาออกหมายจับนางรัตติกาล และนายวรยุทธ์ สองแม่ลูก ข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ร่วมกันย้ายหรือทำลายศพหรือส่วนของศพเพื่อปิดบังการตายหรือเหตุแห่งการตาย และโดยไม่มีเหตุอันควรร่วมกันทำให้เสียหาย เคลื่อนย้ายทำลายทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งศพกระทำการใดๆแก่ศพ

ขณะที่นางสุดใจ สมศักดิ์ อายุ 54 ปี พี่สาวผู้ตายพร้อมญาติๆเดินทางมาจาก จ.ราชบุรี เข้าให้ปากคำตำรวจก่อนไปทำพิธีเชิญดวงวิญญาณผู้ตายกลับบ้านที่ จ.ราชบุรี เปิดเผยว่า หลังพบศพน้องชายคิดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าต้องเป็นฝีมือนางรัตติกาล น้องสะใภ้แน่นอน เพราะมีพิรุธหลายอย่าง

อีกทั้งเบอร์โทรศัพท์ที่เขียนไว้ก็ไม่ใช่ลายมือน้องชาย ที่ผ่านมาน้องชายรักเมียคนนี้มาก ยอมทำงานยอมเหนื่อย ได้เงินมาก็ให้ลูกเมียหมด เสียใจที่เกิดเหตุแบบนี้ขึ้น ทั้งที่ญาติพี่น้องเคยเตือนแล้ว แต่น้องชายไม่ฟัง ทั้งนี้ จะไม่ยอมให้อภัยเด็ดขาดให้ตำรวจดำเนินคดี ให้ถึงที่สุด

เย็นวันเดียวกัน พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พร้อมด้วย พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.อรรถพล อิทธโยภาสกุล ผกก.สภ.ห้วยใหญ่ และ พ.ต.อ.ภาสกร ไพจิตต์ ผกก.สส.ภ.จ.ชลบุรี นำตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บหลักฐานลายนิ้วมือและดีเอ็นเอภายในรถกระบะที่ใช้ก่อเหตุ พบว่าผู้ต้องหานำรถไปล้างทำความสะอาดทำลายหลักฐานหมดแล้ว จากนั้นคุมตัวผู้ต้องหาสองแม่ลูกจำลองเหตุการณ์หน้า สภ.ห้วยใหญ่ ทั้งคู่มีสีหน้าเคร่งเครียด ไม่ยอมตอบคำถามใดๆผู้สื่อข่าว ขณะที่ญาติผู้ตายเข้าไปดูเหตุการณ์ด้วยท่าทางไม่พอใจ เจ้าหน้าที่กลัวเหตุรุนแรงรีบนำตัวเข้าห้องขัง โดยวันที่ 7 มี.ค.ตำรวจจะคุมตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างละเอียดอีกครั้ง

ด้าน พล.ต.ต.ธวัชเกียรติ จินดาควรสนอง ผบก.ภ.จ.ชลบุรี เปิดเผยว่า จากการสอบสวนผู้ต้องหาโดยเฉพาะตัวลูกชายอ้างสาเหตุมาจากแค้นพ่อเลี้ยงชอบทำร้ายแม่เป็นประจำ ส่วนอีกเรื่องอ้างว่าผู้ตายเตรียมขายที่ดินใน จ.ราชบุรี ราคาประมาณ 1.1 ล้านบาท ผู้ตายบอกจะแบ่งให้ 3 แสนบาท แต่สุดท้ายที่ดินมีปัญหาขายไม่ได้ เพราะเป็นที่มรดกในครอบครัวที่พ่อแม่ให้ไว้เพื่อสร้างที่พักอาศัย ทำให้สองแม่ลูกเกิดไม่พอใจคิดว่าถูกผู้ตายหลอก อย่างไรก็ตามตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อตามคำให้การ อยู่ระหว่างสอบสวน เพิ่มเติมเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงต่อไป

ที่มาข่าว: ไทยรัฐออนไลน์ (https://www.thairath.co.th/news/crime/2845691)

ท่องเที่ยวไทย