ข่าววันที่ 10 มีนาคม 2568

ข่าววันที่ 10 มีนาคม 2568 ส่งศพ ผกก.โจ้ ผ่าซ้ำ รพ.จุฬา หมอนิติฯ ยันผูกคอเอง เมียคาใจ-ซัดเรือนจําบิดเบือน
ข่าววันที่ 10 มีนาคม 2568 ครอบครัว “อดีต ผกก.โจ้” ส่งศพชันสูตรครั้งที่ 2 ที่ รพ.จุฬาฯ หลังสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ระบุสาเหตุการตายเพราะขาดอากาศหายใจจากการทำร้ายตัวเอง ส่วนทนายเผยเหตุผลส่งผ่ารอบสองที่ รพ.จุฬาฯ เพื่อเปรียบเทียบกัน
อีกทั้งญาติอยากให้มีทั้งสองส่วนในการพิสูจน์ ด้านแม่ ผกก.โจ้รับสงสารลูกถูกรังแก ตั้งข้อสงสัยผ้าขนหนูแค่นั้นจะผูกคอได้อย่างไร เผยอีกหลังชันสูตรเสร็จจะนำศพตั้งสวดที่วัดพระศรีมหาธาตุ บางเขน 7 คืน ขณะที่ ผบก.น.2 ระบุตำรวจยังไม่เข้าไปสอบคดีทำร้ายร่างกาย “ผกก.โจ้” เพราะเรือนจำแจ้งมีความขัดข้องเกิดขึ้น
กรณีการเสียชีวิตของ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล หรืออดีตผู้กำกับโจ้ ผู้ต้องหาใช้ถุงดำคลุมหัวผู้ต้องหาคดียาเสพติดเสียชีวิตในโรงพัก สภ.เมืองนครสวรรค์ โดยอดีตนายตำรวจคนดังก่อเหตุใช้ผ้าขนหนูผูกคอเสียชีวิตในห้องขังหมายเลข 50 ตึกนอนแดน 5 เรือนจำกลางคลองเปรม
เมื่อคืนวันที่ 7 มี.ค. ขณะที่กรมราชทัณฑ์เผยแพร่คลิปไทม์ไลน์จากกล้องวงจรปิด ก่อนอดีต ผกก.โจ้ เสียชีวิต แต่พ่อแม่ญาติพี่น้องติดใจนำร่างมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรม จ.ปทุมธานี เพื่อชันสูตรพลิกศพโดยละเอียด ตามที่เสนอข่าวแล้ว
ความคืบหน้าปริศนาการเสียชีวิตของ ผกก.โจ้ถุงดำในเรือนจำเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 9 มี.ค. ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม ต.บ้านใหม่ อ.เมืองปทุมธานี จ.ปทุมธานี ผู้ช่วย ศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ ร.ต.อ.โชคชัย สิทธิผลกุล อธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน
สำนักงานอัยการสูงสุด นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผอ.กองกิจการอำนวยความยุติธรรม กรมสอบสวนคดีพิเศษ และผู้เกี่ยวข้อง อาทิ คณะอนุกรรมการกลั่นกรองข้อเท็จจริงกรณีการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (ตำรวจ อัยการ ปกครอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ และกรมคุ้มครองสิทธิ) ทนายความ ญาติ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ หรืออดีต “ผกก.โจ้” ร่วมสังเกตการผ่าชันสูตรศพ
ต่อมาเวลา 11.45 น. ผู้ช่วย ศ.นพ.วรวีร์ ไวยวุฒิ รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวว่า จากที่ได้ตรวจศพเบื้องต้นให้น้ำหนักเรื่องการผูกคอเสียชีวิตมากกว่าเรื่องการถูกทำร้ายอื่นๆ ไม่พบบาดแผลที่ถูกทำร้ายชัดเจน บาดแผลมีฟกช้ำตามร่างกายบริเวณสะโพกเป็นรอยฟกช้ำเก่า จะตรวจเพิ่มเติมว่าระยะเวลาการฟกช้ำนานแค่ไหน
บาดเจ็บเกิดขึ้นเมื่อไร ส่วนกรณีญาติเข้าไปดูที่เกิดเหตุพบมีเลือดที่จุดพบศพนั้น ตนไม่ได้ไปดูที่เกิดเหตุแต่ได้สอบถามคณะที่ไปชันสูตรที่เกิดเหตุเป็นไปได้สองกรณี กรณีแรกสงสัยเป็นเลือดที่ออกมาหลังการเสียชีวิตแล้วจะมีของเหลวไหลออกจากร่างกายออกจากทางปากและบริเวณอื่นๆ อันที่ 2 มาจากบาดแผล แต่เราพบแผลถลอกที่ท้องแขน คาดว่าน่าจะเป็นเลือดที่ออกจากของเหลวทางร่างกายมากกว่า ทราบว่าพิสูจน์หลักฐานเก็บไปตรวจสอบแล้วและจะบอกได้ว่าเลือดที่ออกมามาจากไหนโดยแผลถลอกน่าจะเกิดจากการนำร่างลงมาอาจจะไปขูดอะไรสักอย่าง เป็นสิ่งที่เจอตั้งแต่ตอนชันสูตรเบื้องต้นเป็นแผลที่เกิดใหม่
รอง ผอ.สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กล่าวต่อว่า สาเหตุการเสียชีวิตเบื้องต้นน่าจะเป็นเรื่องของการขาดอากาศหายใจเนื่องจากการผูกคอเสียชีวิต เท่าที่ดูเราให้น้ำหนักไปทางกระทำด้วยตนเองมากกว่า เพราะลักษณะแรงที่เกิดขึ้นไม่พบรอยที่ช้ำที่บริเวณเนื้อเยื่อใต้ลำคอใต้รอยรัด ไม่พบรอยช้ำจากกระดูกกล่องเสียง พบว่าแรงที่มากระทำไม่เยอะมาก พอแรง กระทำไม่เยอะมากจึงเข้าได้กับการผูกคอเสียชีวิตไม่ใช่การรัดคอ
ด้านนายวีรศักดิ์ นาคิน ทนายความอดีต ผกก.โจ้ กล่าวว่า ต้องดูข้อเท็จจริงในส่วนของ พ.ต.อ.ทวีที่ดูแลอยู่ ต้องรวบรวมข้อมูลก่อน ส่วนประเด็นที่เคยไปแจ้งความที่ สน.ประชาชื่น แล้วเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ไม่ให้ความร่วมมือทางเราจะดำเนินการยังไงต่อ จะแจ้ง 157 ด้วยหรือไม่ อยู่ระหว่างรวบรวมข้อเท็จจริงว่าเป็นอย่างไร แล้วจะได้ดำเนินการต่อ พร้อมทั้งญาติได้ลงบันทึกไว้ที่ สน.ประชาชื่น ว่าติดใจการเสียชีวิต
ขอให้นำศพไปผ่าที่ รพ.จุฬาฯอีกครั้งเป็นการขอให้ผ่าเปรียบเทียบกันเฉยๆ ญาติอยากให้มีทั้งสองส่วนในการพิสูจน์ เพราะอยากได้ข้อมูลเปรียบเทียบกัน หากข้อมูลไม่ต้องกันต้องดูข้อมูลจากสถาบันนิติเวชทั้งสองแห่งก่อน ในส่วนผู้กำกับโจ้ถูกลงโทษหรือขอแยกไปขังเดี่ยวเอง ในส่วนนี้ยืนยันเลยเขาแจ้งตลอดว่าเขาอยากออกจากขังเดี่ยว เขาไม่ได้ขอที่จะขังเดี่ยว เขาแจ้งญาติตลอดเป็นการเหมือนถูกลงโทษแล้วไปขังเดี่ยว โดยประมาณ 2 เดือนแล้วหลังจากที่ถูกทำร้าย ถูกแยกไปขังเดี่ยว ส่วนสาเหตุไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรต้องถามญาติเพราะเราได้รับแจ้งว่าถูกไปขังเดี่ยวเท่านั้น
กระทั่งเวลา 13.00 น. เจ้าหน้าที่นำศพอดีต ผกก.โจ้ ออกมาขึ้นรถกู้ภัยเดินทางไปที่ รพ.จุฬาฯ เพื่อผ่าพิสูจน์อีกครั้ง มี น.ส.จันทา อุทธนผล แม่ น.ส.ธนัญญา หรือจูน อุทธนผล น้องสาว ผกก.โจ้ และ น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ อายุ 28 ปี ภรรยาสาวผู้ตาย เดินทางไปกับรถ เมื่อมาถึง รพ.จุฬาฯนางจันทาได้จุดธูป 1 ดอก ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะนำศพลงจากรถแล้วนำเข้าไปยังห้องเพื่อรอชันสูตร
ด้าน น.ส.สิภชา แก่นสุวรรณ ภรรยาสาวเผยว่า ที่ผ่านมารู้ว่าพี่โจ้ทุกข์มากๆ ชีวิตที่อยู่เรือนจำเขาถูกกลั่นแกล้ง ถูกทำร้ายร่างกาย หลังเกิดเรื่องดูข่าวคร่าวๆ ยอมรับว่ารู้สึกเหมือนเรือนจำจะบอกว่าพี่โจ้ต้องการจะอยู่ขังเดี่ยวเอง แต่ตนและครอบครัวยืนยันได้ไม่ใช่เรื่องจริง วันนี้ที่ออกมาร้องเรียนและต่อสู้เพื่อต้องการสื่อสารให้ทุกคนรู้ว่าเราพยายามจะเอาเขาออกมาจากการขังเดี่ยวตลอดทั้งๆที่เขาไม่ได้มีความผิด
ถูกกล่าวหากระด้างกระเดื่อง แม้จะไม่มีเรื่องอะไรเลยก็ตาม ที่ผ่านมาครอบครัวได้พยายามยื่นเรื่องเพื่อช่วยเหลือพี่โจ้ แม้กระทั่งไปแจ้งความให้ตำรวจเข้าไปสอบปากคำเรื่องที่พี่โจ้ถูกทำร้ายในเรือนจำยังทำไม่ได้ ผู้บัญชาการเรือนจำไม่อนุญาตให้เข้าไปทั้งๆที่เป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง เรือนจำให้เหตุผลว่า “จะแจ้งความผู้คุม เขาจะต้องทราบเรื่องก่อน เพราะเป็นสิทธิที่เขาต้องอนุญาต”
น.ส.สิภชาเผยอีกว่า เชื่อว่าการตายครั้งนี้พี่โจ้น่าจะถูกกดดันเพราะเขาพยายามที่จะสื่อสารกับเราว่าเขาถูกกลั่นแกล้ง ทำร้าย เราถึงพยายามช่วยเหลือตั้งแต่เกิดเรื่อง ผ่านมา 2 เดือน ไม่มีวันไหนที่ครอบครัวไม่เต็มที่ ไม่ว่าสิ่งที่ตนจะทำในวันนี้จะช่วยพี่โจ้ได้หรือไม่ ไม่ว่าจะทวงความยุติธรรมได้หรือไม่จะทำเต็มที่จริงๆ และยังเชื่อว่าถึงแม้เรือนจำจะพยายามบิดเบือนความจริง เปลี่ยนแปลง หรือปกปิดหรือช่วยเหลือใครใดๆ ก็แล้วแต่ แต่ตนยังเชื่อมั่นใน รมว.ยุติธรรม เชื่อในกรมสิทธิต่างๆที่เข้ามาช่วยเหลือ เพราะเราถูกรังแกจริงๆ
น.ส.สิภชายังฝากถึงผู้คุมคนที่ทำร้าย ผกก.โจ้ ด้วยว่า พี่โจ้ทำผิดด้วยความประมาททำให้คนอื่นถึงแก่ชีวิต พี่โจ้ก็ต้องรับโทษ แต่ท่านทำร้ายร่างกายคนโดยไม่มีเหตุจำเป็น ท่านกดดันกลั่นแกล้งดูถูก เหยียดหยาม ท่านต้องได้รับโทษเหมือนกัน ส่วนสาเหตุที่วันนี้ครอบครัวนำศพผกก.โจ้มาชันสูตรรอบ 2 เพราะอยากจะทำทุกอย่างให้ได้มากที่สุดและดีที่สุด เพราะถือเป็นสิ่งสุดท้ายเขาอยากจะให้ทำ นั่นคือทวงคืนความยุติธรรมให้เขา
ขณะที่ น.ส.จันทา มารดาอดีต ผกก.โจ้ บอกว่า ที่ผ่านมาได้ยื่นเอกสาร 2 ฉบับ ให้ผู้บัญชาการเรือนจำคนเก่าแต่ก็เงียบ คนใหม่ก็ยื่นไปอีกเรื่องก็เงียบ และยังให้เราไปตกลงกับเขาให้ถอนแจ้งความ ยืนยันไม่ถอน แต่จะเอาหลักฐานอะไรมาสู้ เขาก็ต้องปกป้องคนในบ้านเขา ที่ผ่านมาตนสุดช้ำใจรับรู้ตลอดสิ่งที่ลูกชายโดนรังแก
สงสารลูกมากที่สุด ส่วนคลิปวงจรปิดที่กรมราชทัณฑ์ปล่อยออกมานั้นตนยังแคลงใจตั้งแต่เขาถูกทำร้ายทำไมถึงไม่พาไปหาหมอ และยังสงสัย เรื่องผ้าขนหนูที่ยาวแค่นั้นจะผูกคอตัวเองได้อย่างไร สำหรับวันพรุ่งนี้หลังเสร็จสิ้นการชันสูตรศพรอบ 2 ครอบครัวจะมารับศพช่วงเวลา 15.00 น. พาไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร บางเขน โดยจะสวดพระอภิธรรม 7 คืน
ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 09.00 น. วันเดียวกัน ที่ สน.ประชาชื่น พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 พ.ต.อ.ธิติพงศ์ ภิวัฒน์วุฒิกุล รอง ผบก.น.2 พ.ต.อ.สัญญา อุบลวิรัตนา ผกก.สน.ประชาชื่น พ.ต.ท.ณัฐพล รัตน์สุภาพงศ์ สว. (สอบสวน) สน.ประชาชื่น พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องประชุมเร่งรัดคดีดังกล่าว
หลังประชุม พล.ต.ต.เจษฎา สวยสม ผบก.น.2 เปิดเผยว่า วันนี้มาประชุมติดตามเร่งรัดคดีทั้งในส่วนคดีที่ผู้กำกับโจ้เสียชีวิต และถูกทำร้ายร่างกาย คดีการเสียชีวิตของผู้กำกับโจ้ ได้เก็บพยานหลักฐานครบแล้วรวมถึงกล้องวงจรปิด หลังจากนี้จะตรวจสอบหลักฐานทั้งหมดอย่างละเอียด โดยเฉพาะผ้าขนหนูที่ผู้ตายใช้ก่อเหตุ ความยาวของผ้าตอนนี้ยังระบุไม่ได้ เนื่องจากเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ได้ตัดออกเพื่อช่วยเหลือและเข้าไปด้านในห้องขังเดี่ยว
ที่มาข่าว: ไทยรัฐออนไลน์ (https://www.thairath.co.th/news/local/2846172)

