เหนือ

เที่ยวบึงกาฬ ท่องเที่ยวสถานที่สวย ๆ ที่ต้องไปเยือนสักครั้ง

เที่ยวบึงกาฬ เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจเพราะมี ธรรมชาติอันงดงาม วัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ และแหล่งท่องเที่ยวที่หลากหลาย ซึ่งตอบโจทย์ทั้งสายธรรมชาติ ผจญภัย และผู้ที่ต้องการพักผ่อนท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงบ

เที่ยวบึงกาฬ

เที่ยวบึงกาฬ

1. เที่ยวบึงกาฬ ธรรมชาติที่งดงามและแปลกตา

  • หินสามวาฬ จุดชมวิวบนหินขนาดใหญ่ที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬ มองเห็นวิวแม่น้ำโขงสุดลูกหูลูกตา
  • ภูทอก ภูเขาที่มีสะพานไม้ไต่ระดับขึ้นไปชมวิว พร้อมสัมผัสบรรยากาศแห่งศรัทธา
  • น้ำตกถ้ำพระ น้ำตกสวยงามที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าธรรมชาติ เหมาะแก่การผ่อนคลาย

2.เสน่ห์ของวิถีชีวิตริมแม่น้ำโขง

  • บึงกาฬตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขง ทำให้มีบรรยากาศที่เงียบสงบและวิวสวยงามตลอดแนว
  • มีตลาดและหมู่บ้านริมโขงที่สามารถสัมผัสวิถีชีวิตชาวบ้าน และชิมอาหารพื้นเมืองแสนอร่อย

3.กิจกรรมผจญภัย เที่ยวบึงกาฬ และแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

  • ปีนเขาและเดินป่าศึกษาธรรมชาติในพื้นที่อุทยาน
  • ล่องเรือชมธรรมชาติและสัมผัสบรรยากาศสุดชิลริมแม่น้ำโขง

4.วัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจ

  • มีวัดสำคัญหลายแห่ง เช่น วัดภูทอก ที่มีทางเดินไม้สุดท้าทาย
  • พื้นที่บางแห่งเป็นที่ตั้งของโบราณสถานและมีประวัติความเป็นมายาวนาน

5.เดินทางสะดวก ไม่พลุกพล่าน

  • เป็นจังหวัดที่ยังไม่ถูกนักท่องเที่ยวแออัดมากนัก จึงเหมาะสำหรับคนที่ต้องการความเงียบสงบ
  • มีทางเลือกการเดินทางทั้งทางรถยนต์ รถไฟ และเครื่องบิน (ผ่านสนามบินอุดรธานีหรือนครพนม แล้วต่อรถ)

บึงกาฬจึงเป็นจังหวัดที่ครบเครื่องทั้งธรรมชาติ วัฒนธรรม 20ที่เที่ยวบึงกาฬ และกิจกรรมท่องเที่ยว เหมาะสำหรับการมาพักผ่อนและสัมผัสความงามของภาคอีสานที่ยังคงความบริสุทธิ์แบบดั้งเดิม

สถานที่ท่องเที่ยวที่ต้องไปเยือนใน เที่ยวบึงกาฬ

เที่ยวบึงกาฬ หินสามวาฬ

หินสามวาฬ เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของ ท่องเที่ยวไทย จังหวัดบึงกาฬ โดดเด่นด้วยหินขนาดมหึมาสามก้อนที่มีรูปร่างคล้ายปลาวาฬพ่อแม่ลูก ตั้งเรียงกันอย่างสวยงามบนภูเขา อายุเก่าแก่กว่า 75 ล้านปี และเป็นจุดชมวิวที่มองเห็น แม่น้ำโขงและป่าธรรมชาติ ได้กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา

จุดเด่นของหินสามวาฬ

  • จุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม – นักท่องเที่ยวมักมาตั้งแต่เช้าเพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้นพร้อมทะเลหมอก
  • วิว 360 องศา – มองเห็นทั้งป่าเขียวขจี แม่น้ำโขง และตัวเมืองบึงกาฬ
  • เหมาะกับการถ่ายรูปสุดอลังการ – ด้วยพื้นหินกว้างขวางและฉากหลังเป็นธรรมชาติสวยงาม

การเดินทางไปหินสามวาฬ
ที่ตั้ง: อยู่ในเขต ป่าภูสิงห์ อำเภอเมือง จังหวัดบึงกาฬ

การเดินทาง ขับรถจากตัวเมืองบึงกาฬ ประมาณ 40 กิโลเมตร ใช้บริการรถนำเที่ยวจากศูนย์บริการนักท่องเที่ยวภูสิงห์ (ห้ามนำรถส่วนตัวขึ้น)

สิ่งที่ควรรู้ก่อนไปเที่ยว

  • ช่วงเวลาที่ดีที่สุด: ตี 5 – 8 โมงเช้า (ชมพระอาทิตย์ขึ้น) หรือช่วงเย็น
  • การเตรียมตัว: ควรใส่รองเท้าผ้าใบเพื่อความปลอดภัย
  • ข้อควรระวัง: หินอาจลื่นในช่วงฝนตก ต้องเดินอย่างระมัดระวัง

หินสามวาฬ เป็นจุดหมายปลายทางที่ห้ามพลาดสำหรับสายธรรมชาติและคนรักการถ่ายภาพ ใครที่มาเที่ยวบึงกาฬต้องแวะไปชมด้วยตัวเองสักครั้ง!

น้ำตกถ้ำพระ

น้ำตกถ้ำพระ เป็นน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบึงกาฬ ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติภูลังกา โดดเด่นด้วยสายน้ำที่ไหลผ่านโขดหินลงมาเป็นชั้น ๆ ท่ามกลางป่าธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ และมีบรรยากาศร่มรื่น เหมาะสำหรับการเที่ยวชมและพักผ่อน

จุดเด่นของน้ำตกถ้ำพระ

  • น้ำตกขนาดใหญ่ท่ามกลางธรรมชาติ – มีสายน้ำที่ไหลผ่านชั้นหินลงมาสวยงาม โดยเฉพาะในช่วงฤดูฝน
  • ถ้ำพระอันศักดิ์สิทธิ์ – มีถ้ำที่ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณ ซึ่งเป็นที่มาของชื่อน้ำตก
  • เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติ – เหมาะสำหรับสายผจญภัยที่ชอบเดินสำรวจป่า

การเดินทางไปน้ำตกถ้ำพระ
ที่ตั้ง: อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ

การเดินทาง จากตัวเมืองบึงกาฬ ใช้เวลา ประมาณ 1.5 ชั่วโมง (80 กิโลเมตร) ต้องเดินเท้าจากจุดจอดรถเข้าไปยังน้ำตกประมาณ 1-2 กิโลเมตร

ช่วงเวลาที่เหมาะแก่การท่องเที่ยว

  • ฤดูฝน (มิถุนายน – ตุลาคม) – น้ำจะไหลแรงและสวยงามที่สุด
  • ฤดูหนาว (พฤศจิกายน – กุมภาพันธ์) – อากาศเย็นสบาย เหมาะกับการเดินป่า

กิจกรรมที่แนะนำ

  • เดินป่าศึกษาธรรมชาติและสำรวจถ้ำพระ
  • ถ่ายภาพสายน้ำและวิวธรรมชาติที่สวยงาม
  • ลงเล่นน้ำในจุดที่ปลอดภัย

ภูทอก

ภูทอก เป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงที่สุดของจังหวัด บึงกาฬ โดดเด่นด้วย สะพานไม้ไต่ระดับขึ้นไปตามหน้าผา ที่สร้างขึ้นโดยพระอาจารย์จวน กุลเชฏโฐ เพื่อเป็นทางขึ้น วัดเจติยาศรีวิหาร (วัดภูทอก) นักท่องเที่ยวที่มาเยือนจะได้สัมผัสกับ บรรยากาศอันเงียบสงบ วิวทิวทัศน์กว้างไกล และเส้นทางเดินสุดท้าทาย

จุดเด่นของภูทอก

  • สะพานไม้ 7 ชั้นที่ไต่ตามแนวหน้าผา – เป็นไฮไลต์ที่ทำให้ที่นี่มีเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
  • จุดชมวิว 360 องศา – สามารถมองเห็น ป่าภูสิงห์ ทุ่งนา และแม่น้ำโขง ได้อย่างชัดเจน
  • สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ – เป็นที่ตั้งของวัดเจติยาศรีวิหาร ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติธรรมของพระสงฆ์
  • เหมาะกับสายเดินป่าและคนชอบความท้าทาย – ต้องเดินขึ้นบันไดไม้หลายระดับเพื่อไปถึงจุดชมวิว

เส้นทางเดินขึ้นภูทอก
ภูทอกมีทั้งหมด 7 ชั้น ซึ่งแต่ละชั้นมีความหมายและความท้าทายที่แตกต่างกัน

  • ชั้น 1 – 2: เป็นทางเดินป่าและมีสะพานไม้
  • ชั้น 3 – 4: เริ่มมีวิวเปิดกว้าง มองเห็นหมู่บ้านรอบ ๆ
  • ชั้น 5: มีถ้ำและศาลาพัก เป็นจุดแวะพักก่อนขึ้นต่อ
  • ชั้น 6: เป็นที่ตั้งของ พระอุโบสถและจุดปฏิบัติธรรม
  • ชั้น 7: จุดสูงสุดของภูทอก มีทางเดินรอบยอดเขา มองเห็นวิวแบบ พาโนรามา

การเดินทางไปภูทอก

ที่ตั้ง: อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ

การเดินทาง อยู่ห่างจากตัวเมืองบึงกาฬ ประมาณ 50 กิโลเมตร สามารถขับรถไปถึงทางขึ้น จากนั้นต้องเดินเท้าขึ้นภูทอก

ช่วงเวลาที่ควรไปเยือน

  • ช่วงเช้า (06.00 – 09.00 น.) – เหมาะสำหรับการชมพระอาทิตย์ขึ้นและหมอกจาง ๆ
  • ช่วงเย็น (16.00 – 18.00 น.) – อากาศไม่ร้อนมาก และเหมาะสำหรับการชมวิวพระอาทิตย์ตก

ทำไมต้องไปภูทอก?

  • ได้สัมผัสประสบการณ์เดินขึ้นสะพานไม้บนหน้าผาสูง
  • ได้ชมวิวธรรมชาติอันงดงามของบึงกาฬ
  • ได้สัมผัสบรรยากาศแห่งความสงบทางจิตใจ

ภูทอก เป็นอีกหนึ่งจุดหมายปลายทางที่ทั้งท้าทายและงดงาม เหมาะสำหรับสายผจญภัยและผู้ที่ต้องการเติมพลังใจจากธรรมชาติ ถ้าคุณมาเที่ยวบึงกาฬ ห้ามพลาด!

กิจกรรมแนะนำเมื่อมาเที่ยวบึงกาฬ

บึงกาฬเป็นจังหวัดที่เต็มไปด้วย ธรรมชาติอันสวยงาม วิถีชีวิตเรียบง่าย และกิจกรรมที่หลากหลาย ไม่ว่าคุณจะเป็นสายลุย สายชิล หรือสายวัฒนธรรม ที่นี่มีอะไรให้คุณทำมากมาย!

ชมวิวและปีนเขาที่ “หินสามวาฬ”

  • เดินขึ้นไปชมวิวแม่น้ำโขงและป่าอันเขียวขจีจากจุดชมวิวสุดอลังการ
  • ถ่ายรูปบนหินขนาดมหึมาที่มีรูปร่างเหมือนปลาวาฬ
  • ช่วงเวลาที่แนะนำ: เช้าตรู่เพื่อชมพระอาทิตย์ขึ้น หรือช่วงเย็นก่อนพระอาทิตย์ตก

ผจญภัยเดินขึ้น “ภูทอก”

  • ท้าทายตัวเองด้วยการเดินขึ้นบันไดไม้ 7 ชั้น บนหน้าผาสูง
  • ชมวิวสุดอลังการ 360 องศา ของบึงกาฬ
  • สำรวจวัดเจติยาศรีวิหารและเรียนรู้แนวทางปฏิบัติธรรม

เล่นน้ำและสำรวจ “น้ำตกถ้ำพระ”

  • เดินป่าชมธรรมชาติในอุทยานแห่งชาติภูลังกา
  • ลงเล่นน้ำในแอ่งน้ำธรรมชาติที่ปลอดภัย
  • แวะสักการะพระพุทธรูปในถ้ำพระที่อยู่ใกล้น้ำตก

ล่องเรือชมแม่น้ำโขง

  • สัมผัสบรรยากาศสุดชิลริมแม่น้ำโขง
  • แวะชม “เกาะดอนแพง” และพื้นที่ธรรมชาติริมน้ำ
  • ถ่ายรูปพระอาทิตย์ตกที่ริมแม่น้ำ

สัมผัสวิถีชีวิตท้องถิ่นและตลาดพื้นเมือง

  • เดินเล่นในตลาดเช้าบึงกาฬ หาของกินอร่อย ๆ เช่น ปลาสดจากแม่น้ำโขง
  • ลองอาหารพื้นเมือง เช่น แจ่วบอง ลาบปลา หรือหมกหน่อไม้
  • ชมสินค้าหัตถกรรมและของฝากจากชาวบ้าน

ไม่ว่าคุณจะชอบเที่ยวแนวผจญภัย ชิล ๆ หรือสายบุญ บึงกาฬก็มีทุกอย่างให้เลือกทำ! ใครที่ยังไม่เคยมา ต้องลองมาเที่ยวสักครั้ง แล้วคุณจะหลงรักที่นี่แน่นอน